นายกฯ แถลงวิสัยทัศน์ 8 ด้าน ดันไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม – คมนาคม

นายกฯ แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” 8 ด้าน ดันไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม – คมนาคม ส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ทำโครงสร้างพื้นฐานให้ดี

วันนี้ (22 ก.พ. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” ว่า แต่ละจังหวัดมีจุดแข็งต่างกัน ต้องการใส่ใจไม่ใช่แค่ใส่เงินอย่างเดียว เพื่อให้เป็นที่ต้องการดึงดูดคนเข้ามาในประเทศไทย ตนเองเดินไปที่จังหวัดน่าน เห็นถึงความมีเสน่ห์ มีสนามบิน แต่ไม่มีไฟ เดินทางกลางคืนลำบาก ไม่มีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง รับนักท่องเที่ยวที่มาจากลาว การยกระดับสนามบิน ประสานร่วมมือกระทรวงวัฒนธรรม ดันไปยูเนสโก หาซอฟต์พาวเวอร์ เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้ เช่น มวยไทย มีการใช้ทักษะ และมีคำว่า “ไทย” อยู่ ซึ่งในต่างประเทศมีค่ายมวยหลายพันแห่ง กางเกงมวยไทยก็มีศิลปินต่างชาตินำไปใส่ รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ในการต่อยมวยก็สามทรถขายได้ มั้งหมดเป็นเงินทั้งสิ้น

นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเราต้องเชิญชวนชาวโลกให้มาเที่ยวเมืองไทย จัดคอนเสิร์ตระดับโลก งานเทศกาลศิลปะ นำเงินลงทุนหลักแสนล้านมาจัดกิจกรรมนี้ และจัดกิจกรรมในเมืองรองไปพร้อม ๆ กันได้ ทั้งหมดนี้จะต้องแก้ไขกฎระเบียบที่อุปสรรคต่อการท่องเที่ยว เช่น เวลาการเปิดสถานบริการ ปรับปรุงเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สนับสนุนการเฉลิมฉลองในสนามกีฬา ไทยเป็นประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมที่สุด ผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศใฟ้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลาง พร้อมที่จะเป็นโฮมสเตย์ให้กับชาวโลก ให้จับจ่ายใช้สอยสูงขึ้น จากการขยายระยะเวลาในการอยู่ประเทศไทย ย้ำว่า ประเทศเรามีศักยภาพสูง ยังมีเรื่องการรักษาสุขภาพ สถานพยาบาล การรักษาด้วยระบบ 30 บาท รักษาทุกโรค ต้องดูแลเรื่องความเหลื่อมล้ำของคนทุกคน ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และทำให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

นายกรัฐมนตรี ระบุว่าประเทศไทยมีการทำอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งนำมาทำอาหารได้หลากหลาย และมีรสชาติอร่อย ตนเองจะไปลงพื้นที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อดูว่ามีอะไรเด่นล้าง เราจะไม่พูดถึงปัญหา แต่จะพูดถึงโอกาส ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในกระเป๋ามีตัง จะยกระดับเกษตรกร บริการจัดการน้ำ ให้ไม่ท่วมไม่แล้ง เพื่อให้ทำเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง ลดผลกระทบด้านฝุ่น PM2.5 ส่งเสริมโปรตีนจากพืช คือ ถั่วเหลือง ที่มีความต้องการสูงในตลาดโลก

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการเดินทาง มีการเปลี่ยนเครื่องที่ไทย พัฒนาระบบการขนส่งสินค้าเย็นอย่างครบวงจร เป็นศูนย์กลางสายการบินและการซ่อมบำรุง ให้สายการบินต่างชาติมาสร้าง HomeBase ในประเทศ เพิ่มศักยภาพระบบคมนาคม ขยายถนนหลัก ถนนรองในปี 2050 โดนจะขยายมอเตอร์เวย์ 10 เท่า ขยายทางหลวงแผ่นดิน 4 เลน ให้ครอบคลุมเหนือจรดใต้ ขยายระบบราง เชื่อมต่อท่าเรือน้ำลึก ทำโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อโอกาสต่อรองในเวทีโลก ทำระบบคมนาคมที่ดี มีชายแดนติดกับเพื่อนบ้าน ระยะทางใกล้กับศูนย์กลางเศรษฐกิจ คือขุมทรัพย์ที่จะนำเงินเข้าสู่กระเป๋าคนไทย สร้างงาน สร้างโอกาส สร้างอนาคต ทำอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เติบโต โดยเปลี่ยนไปใช้รถอีวี มียอดจองถล่มทลาย จึงจะต้องรักษาตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์อันดับหนึ่งของภูมิภาคไว้ให้ได้ ในเดือนหน้าก็จะพูดคุยกับเครือรถยนต์อื่น ๆ เพิ่มเติมมาให้ลงทุนในไทยอีก

ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาได้มีการเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติให้มาที่ประเทศไทยจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้ตอบรับการลงทุน 150,000 ล้านบาท และ 4 ปีมีเป้าหมายแผนการลงทุน 1 ล้านล้านบาท ทั้งนี้จะทำให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล สร้างพื้นที่ไว้รองรับมหาเศรษฐีเทคโนโลยีในอนาคต มีกองทุน Maching Fund เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของสตาร์ทอัพ เราจะยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการเงิน เราต้องมีความทะเยอทะยานมากกว่านี้ศักยภาพของตลาดทุนไทยสามารถไปได้อีกไกล ทำให้ปริมาณการซื้อขาย Market Cap สูงขึ้น

ส่วนเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยผลิตคาร์บอนเครดิตได้เยอะมาก จะมีการตั้งศูนย์ขายของภูมิภาคในประเทศไทย รวมถึงนำเครดิตเหล่านั้นกลับคืนสู่ประชาชนด้วย

“การจะทำทุกอย่างให้สำเร็จได้นั้น มีเป้าหมายอย่างเดียวคงไม่พอ การเป็นศูนย์กลางต่าง ๆ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนทุกคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว