POLITICS

‘นพดล’ เชื่อ กต. เอาจริงกับปัญหาเมียนมา หวังรัฐบาลทำงานหนักขึ้น

‘นพดล’ เชื่อ กต. เอาจริงกับปัญหาเมียนมา หวังรัฐบาลทำงานหนักขึ้น เห็นด้วย ‘โมดี’ กรอบพหุภาคีสำคัญ แนะใช้ ‘การทูตแบบกระสวย’ บินเจรจาผู้นำโลก

วันนี้ (21 ธ.ค. 66) นายนพดล ปัทมะ ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ตอบคำถามผู้สื่อข่าว The Reporters ณ อาคารรัฐสภา ถึงข้อเสนอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างไร ภายใต้กรอบทวิภาคี ให้ยุติการสู้รบโดยตรง เพื่อหยุดคลื่นผู้ลี้ภัยที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากบางฝ่ายอาจมองว่า ผลลัพธ์จากกรอบพหุภาคีอาเซียน อย่างฉันทามติ 5 ข้อที่ผ่านมากว่า 2 ปีนั้นล้มเหลว

นายนพดล กล่าวตอบรับว่า คำถามนี้ดีมาก นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค. 66) ว่า ต้องยอมรับว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาของกรอบพหุภาคี (Multilateralism) ส่วนตัวคิดว่าพหุภาคียังสำคัญอยู่ แต่สำหรับกรอบทวิภาคี (Bilateralism) นั้น ประเทศไทย มีจุดยืนที่เป็นเอกลักษณ์ (Unique Position) ในการแก้ไขปัญหาในเมียนมา

นายนพดล เปิดเผยว่า ได้สอบถามตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาลมาว่า มีแนวโน้มดำเนินการกระฉับกระเฉงมากขึ้นหรือไม่ ก็มีข่าวว่า รัฐบาลนี้เอาจริงกับปัญหาเมียนมา และมีการประสานงานทุกระดับมากขึ้น

“เราไม่ได้ตำหนิรัฐบาลเก่า แต่ทราบมาว่ากระทรวงการต่างประเทศ พยายามพูดคุยกับพม่ามากขึ้น ไม่ทิ้งกรอบทวิภาคี กรอบพหุภาคีก็ยังดำเนินต่อ ทั้งนี้ทั้งนั้น การทูตการต่างประเทศ ไม่เหมือนการปลูกหญ้าที่ปลูกวันนี้ อาทิตย์หน้าเขียว มันเหมือนการปลูกต้นไม้ใหญ่ ซึ่งใช้เวลาในการเติบโต ผมเอาใจช่วยรัฐบาล ต้องขยันมากขึ้น กรรมาธิการก็ไม่อยากตำหนิฝ่ายบริหาร แต่ต้องทำงานหนักขึ้น” ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าว

นายนพดล ยังเสนอนโยบายการทูตแบบกระสวย (Shuttle Diplomacy) อย่างที่นายเฮนรี คิสซิงเจอร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เคยบินไปพูดคุยและโน้มน้าวผู้นำต่าง ๆ ตลอดจนใช้สถานะพิเศษของไทย

“ตอนนี้ฟังมาจากกระทรวงการต่างประเทศว่า หลายประเทศเข้าใจสถานะของไทยมากขึ้น ก็หวังว่าเราจะใช้กรอบทวิภาคีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าว

Related Posts

Send this to a friend