POLITICS

พลังประชารัฐ จัดชุดใหญ่ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค 55 คน

พลังประชารัฐ จัดชุดใหญ่ เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค 55 คน ‘อันวาร์’ โว คน 3 ชายแดนใต้ กว่าหมื่นคน ทำประชามติ ยอมรับ พปชร. เด็กเศรษฐกิจไทยกลับบ้านเพียบ ‘บุญสิงห์’ ลั่น ‘ประวิตร’ เป็นหัวหน้าพรรคที่ดีที่สุด

วันนี้ (21 ธ.ค. 65) เวลา 16:00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้ง 4 ภาค จำนวน 55 คน โดยมีผู้สมัครที่จากพรรคการเมืองที่ถูกจับตามอง อาทิ นายยงยุทธ เทพจำนงค์ จากพรรคเศรษฐกิจไทย, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ จากพรรคเศรษฐกิจไทย, น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ จากพรรคเศรษฐกิจไทย และนายอันวาร์ สาและ จากพรรคประชาธิปัตย์

สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครจำนวน 55 คน ใน 23 จังหวัด พร้อมด้วย ส.ส บัญชีรายชื่อ ได้แก่ นายบุญสิงห์ วิรินทร์รักษ์, พล.ต.อ. ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส่วนในพื้นที่ภาคต่างๆ ดังนี้

1.จังหวัดอุบลราชธานี นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ, นายนาวิน ลาธุลี, นายวิทยา จันทวีศิริรัตน์

2.จังหวัดอำนาจเจริญ ได้แก่ นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี

3.จังหวัดศรีสะเกษ ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ อิริยะสุนทรกุล, นายเกียรติศักดิ์ ธรรมบุตร, นายอภิชาติ เกียรติสาร, นายธนกฤช จิริวิภากร, นายฤทธา นันทพันธ์

4.จังหวัดยโสธร ได้แก่ นายสฤษดิ์ ประดับศรี, นายประสพโชค โคตรพงศ์, นายมนตรี เอราวรรณ์

5.จังหวัดสุรินทร์ ได้แก่ นายปุณยวัฒน์ สนใจ

6.จังหวัดสกลนคร ได้แก่ นายกฤษณะ พุฒซ้อน, นายสินธุวัฒน์ ยนพันธ์, นายบุญรักษา พรมวัง, นายทนงศิลป์ วจีสิงห์

7.จังหวัดหนองบัวลำภู ได้แก่ นายสรชาติ วิชยสุวรรณพรหม

8.จังหวัดมหาสารคราม ได้แก่ นายสมเกียรติ กะตะศิลา

9.จังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่ นายเฉลิมศักดิ์ แสนปาง
พื้นที่ภาคเหนือ

10.จังหวัดลำพูน ได้แก่ นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์

11.จ.ลำปาง ได้แก่ นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง ,นายจินดา วงศ์สวัสดิ์, นายดาชัย เอกปฐพี, นายสมเกียรติ ตันตระกูล

12.จ.น่าน ได้แก่ นายสักก์สีห์ พลสันติกุล, นายสกล เนตรโสวรกุล ,นายฉัตรชัย จิตตรง

13.จ.เชียงราย ได้แก่ นายพันธวัช ภูผาพันธกานต์, นายบุญเกิด ร่องแก้ว

14.จ.เชียงใหม่ ได้แก่ นายพจนารถ ศรียารัณย, นางศรีพรรณ เขียวทอง นายพรชัย อรรถปรียากูร นางสาวมนสิชา ภัคดิเมธี, นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ

15.จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ นายปกรณ์ จีนาคำ, นายจำลอง ศรีสวัสดิ์

พื้นที่ภาคใต้

16.จ.ปัตตานี ได้แก่ นายอันวาร์ สาและ อดีตส.ส.ปัตตานี 4 สมัย

17.จ.พัทลุง ได้แก่ นายเอกภัทร ภัทรัศมี, ดร.วัฒนา เรื่องแก้ว

พื้นที่ภาคตะวันออก

18.จังหวัดตราด ได้แก่ นายกิตติธัช ไชยอรรถ,

19.จังหวัดปราจีนบุรี ได้แก่ นายนุกูลกิจ พากเพียรศิลป์

พื้นที่ภาคกลาง

20.จังหวัด สมุทรสาคร ได้แก่ นายวัฒนา แตงมณี, นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ, นางสาวปัญฑารีย์ มั่งมี และนายภัฏ สุริวงษ์

21.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ นายชาตรี อยู่ประเสริฐ

22.จังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ นายนพดล สงวนพันธ์, นายประเทศ บุญยงค์

23.จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ นายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์, นายสามารถ เจริญนนทสิทธิ์

นายสันติ กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีที่พรรคพลังประชารัฐได้เปิดตัว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพิ่มอีก เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มั่นใจ ว่าที่จะสามารถดูแล และพัฒนาบ้านเมือง ตามที่หัวหน้าพรรคบอกเสมอว่า พรรคพลังประชารัฐมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาประเทศดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดี และเพื่อร่วมกันเพิ่มศักยภาพให้กับพี่น้องประชาชนในการประกอบอาชีพในการทำธุรกิจ ซึ่งพรรคเราก็ยังสนับสนุน ทั้งนักลงทุน นักธุรกิจผู้ประกอบการชาวไร่ชาวนา แล้วก็พี่น้องแรงงานทั่วประเทศทั้งหมดเพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตในทุกสาขาอาชีพให้มีศักยภาพ และการแข่งขันมากขึ้น โดยเฉพาะเยาวชนที่กำลังศึกษา ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่จะขับเคลื่อน หรือยกระดับการแข่งขันโดยเป็นทั้งนโยบายระยะสั้น และระยะยาวและเป็นพรรคที่มีความตั้งใจในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารที่เข้าร่วมรู้สึกภูมิใจ และมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ต่อว่าที่ผู้สมัครที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์ ทั้ง55 ท่าน ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทำให้สังคมได้รู้ว่า พรรคมีความแข็งแกร่งมั่นคง มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ ตามที่หัวหน้าพรรคเคยกล่าวไว้ ว่าจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคของประชาชน และทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี

ด้านนายวิรัช กล่าวยินดีต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พร้อมระบุว่า วันนี้มีสมาชิกที่จะมาร่วมอุดมการณ์เดียวกันในการที่จะก้าวไปข้างหน้า 22 มี.ค.66 เราจะต้องมีกำหนดการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งไม่เกิน 7 พ.ค.66 เป็นตัวชี้วัดให้เกิดการยุบสภาก่อน 22 กำหนดการเลือกตั้ง 7 พค ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำหนดไว้ ซึ่งพปชร ต้องทำการบ้าน นำนโยบายของพรรคไปนำเสนอต่อประชาชน กระจายไปทั่วภูมิภาคอย่างเท่าเทียมกัน เห็นว่า พรรคมีผู้สมัครจากทุกภาค พร้อมกับความหลากหลายของอาชีพ ของผู้สมัครของ พปชร. และไม่ได้เน้นเฉพาะจุดหนึ่งจุดใด ขอบคุณที่ไว้ใจ พปชร. เลือก พปชร.ในการมาร่วมอุดมการณ์ ซึ่งขณะนี้เราสามารถเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าสิ่งที่ขาดหายไป โดยจะเปิดตัวให้ครบ 400 เขต

นาย อันวาร์ สาและ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนมาจากภาคใต้ มองว่าใน 14 จังหวัดของภาคใต้ มีอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนาอีกเยอะ ถึงจะเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ อีกทั้งในพื้นที่สามชายแดนใต้ยังคงอยู่ในการใช้กฎหมายพิเศษอยู่เลย การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เป็นอุปสรรคกับชาวบ้านในเรื่องของการลงทุน และการใช้ชีวิตตามปกติเหมือนคนทุกภาคไม่ได้ โดยในที่ผ่านมา แม้ตนเองจะเป็นส.ส.ฝั่งรัฐบาล แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ขึ้นอภิปรายในสภา และหลายอย่างก็ไม่ได้เป็นผล

นาย อันวาร์ กล่าวต่อว่า จนมาวันนึง ตนเองได้เข้าไปพบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และได้ยื่นข้อเสนอไป 3 ข้อ คือ

1.การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งวันนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับคนในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนใต้ เพราะได้มีการยกเลิกไปแล้ว 2 อำเภอ ทำให้วันนี้บรรยากาศต่างๆ ในสามจังหวัดชายแดนใต้เริ่มดีขึ้น

2.คือการสร้างฮาลาล เพื่อที่จะทำให้ความเป็นอยู่ของคนภาคใต้ดียิ่งขึ้น

3.การทำให้อาชีพประมงของประชาชนทั้ง 22 จังหวัดที่อยู่ติดชายทะเล ที่มีปัญหา ขอให้ฟื้นฟูเยียวยา ซึ่งตนต่อสู้มาหลายปีแล้ว แต่มีพล.อ.ประวิตร ก็ทำให้แล้วเงินเยียวยาค่าเรือจำนวน 200 กว่าล้านจะถูกอนุมัติภายในสองสัปดาห์หลังจากนี้

ทั้งนี้ ในเหตุผลที่ขอไป ตนมองว่า เรื่องของการยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน น่าจะเพียงพอให้ตนมาทำงานที่พรรคพลังประชารัฐ แต่กลับได้ถึง 3 เรื่อง และตนหวังว่าความตั้งใจของ พล.อ.ประวิตรที่ทำให้พี่น้องภาคใต้ จะทำให้ชีวิตที่เป็นอยู่ดีขึ้น และอีกไม่นานเราจะได้เห็นโครงการดีๆ เกิดขึ้นที่นั่น รวมทั้ง ตนเองได้ทำประชามติกับคนใน 3จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งยืนยันว่า คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ น้อมรับ หรือยอมรับพรรคพลังประชารัฐว่าอยู่ในใจพวกเขา และออกมาทำประชามติให้ผมผมย้ายมาร่วมงานกับพรรค ร่วมหมื่นคนในวันเดียวกัน

ด้าน นายบุญสิงห์ ระบุว่า ตนเองเคยอยู่อยู่พรรคพลังประชารัฐมาก่อน และได้ย้ายออกไป ซึ่งวันนี้ตัดสินใจกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐตนได้มองเห็นชัดเจนว่าพรรคพลังประชารัฐมีหัวหน้าพรรคที่ชื่อว่า พลเอกประวิตร เป็นหัวหน้าพรรคที่ดีที่สุด และมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐค่อนข้างที่จะให้โอกาส ส.ส. ได้แสดงความคิดเห็น หรือแสดงออกและส่งเสริมให้ ส.ส. ภายในพรรคได้มีบทบาทในการเชื่อมโยงกับ กับพี่น้องประชาชนเพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง

อีกทั้ง วันนี้ได้นำพี่น้อง จากภาคเหนือ6-7 จังหวัดมาเสริมทัพพลังประชารัฐ ซึ่งตนเองมั่นใจว่า แต่ละคนที่มาเปิดตัวกับพรรค จะเป็นผูัแทนที่มีคุณภาพ และเป็นผู้สมัครที่คนในพื้นที่อยากจะเห็น ซึ่งหวังว่าเมื่อเป็นผู้แทนแล้วสามารถที่จะพัฒนาบ้านเกิดส่งเสริมที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า รวมทั้งมั่นใจว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐจะสามารถปักธงในทุกจังหวัดของภาคเหนือได้

Related Posts

Send this to a friend