POLITICS

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ติดตามแก้ไขปัญหาอุทกภัย 24 ต.ค.

โฆษกรัฐบาลเผย นายกรัฐมนตรีเตรียมลงพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ตรวจติดตามแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัยและให้กำลังใจประชาชนวันจันทร์ 24 ต.ค.นี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเดินทางไปตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์อุทกภัย ณ จังหวัดสิงห์บุรี ในวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แม่ทัพภาคที่ 1 อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอธิบดีกรมชลประทาน ร่วมคณะลงพื้นที่ด้วย โดยนายกรัฐมนตรีและคณะมีกำหนดการดังนี้

เวลา 08.00 น. นายกรัฐมนตรีออกเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. สนามกีฬา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี ต.บางมัญ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี

เวลา 08.45 น. นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ ณ ห้องรับรอง สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี จากนั้น จะออกเดินทางจากสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี ไปยังหมู่ที่ 3 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี โดยขบวนรถยนต์

เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีลงเรือท้องแบน เพื่อพบปะให้กำลังใจประชาชนและเยี่ยมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัย ณ หมู่ที่ 3 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จากนั้น จะออกเดินทางโดยขบวนรถยนต์ไปยังวัดพิกุลทอง ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี ซึ่งระหว่างทางนายกรัฐมนตรีจะแวะทักทายประชาชนบริเวณวัดจำปาทอง หมู่ที่ 5 ต.โพประจักษ์ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี

เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนที่ประสบอุทกภัย บริเวณหมู่ที่ 3 ต.พิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี แล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทาง ถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 12.30 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

นายอนุชาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง รายงาน (ณ 20 ต.ค. 65) ว่า ผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย รวมถึงความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีน ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ตลอดจนมีการระบายน้ำจากเขื่อนลงแม่น้ำสายหลัก และลำน้ำสาขา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง โดยช่วงวันที่ 28 ก.ย.-20 ต.ค. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่รวม 59 จังหวัด 333 อำเภอ 1,673 ตำบล 10,271 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 480,787 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 6 ราย

โดยจังหวัดสิงห์บุรี มีน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี อำเภอท่าช้าง อำเภอพรหมบุรี อำเภอบางระจัน และอำเภอค่ายบางระจัน รวม 24 ตำบล 145 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,575 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว ซึ่ง ณ วันที่ 21 ต.ค. 65 เวลา 08.00 น. พื้นที่ทั้ง 6 อำเภอของ จังหวัดสิงห์บุรี ยังเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ตามรายงานข้อมูลคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ของ ปภ.

“นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ยืนยันว่ารัฐบาลจะเร่งดูแลเยียวยาประชาชนโดยเร็วที่สุด โดยการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะ เพื่อติดตามการช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชน ซึ่งในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ปภ.จังหวัดที่ประสบภัย ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป” นายอนุชาฯ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend