เครือข่ายแรงงาน ยื่นหนังสือ รมว.แรงงาน ร้องเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท
เครือข่ายแรงงาน ยื่นหนังสือ รมว.แรงงาน ร้องเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท เร่งปรับเกณฑ์ให้ผู้ประกันตนทุกคนมีสิทธิเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม
วันนี้ (21 ก.ย. 66) เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน นำโดย นางสาวธนพร วิจันทร์ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน และภาคีเครือข่าย ยื่นหนังสือถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เพิ่มสิทธิประโยชน์ทางประกันสังคมอื่น ๆ และเร่งจัดเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม
นางสาวธนพร กล่าวว่าหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่าจะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท แต่เมื่อเทียบกับนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการปรับค่าแรง 600 บาทต่อวัน เราจึงเสนอว่าควรปรับค่าแรงเป็น 450 บาท เพื่อให้ตัวเลขของค่าแรงสามารถไต่บันไดไปสู่ค่าแรง 600 บาท ภายในปี 2570 ได้
ทั้งนี้ช่วงที่ปรับค่าแรง 300 บาทต่อวันเท่ากันทั้งประเทศเกิดอำนาจในการซื้อของแรงงานมากขึ้น และกลไกเศรษฐกิจเดินต่อไปได้ โดยปัจจุบันราคาสินค้าโดยเฉพาะราคาพลังงานเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นค่าจ้าง 450 บาทก็ควรจะเท่ากันทั้งประเทศ ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการอาจจะกังวลเพราะต้องรับภาระมากขึ้น ในเมื่อรัฐบาลออกนโยบายแล้วก็ต้องวางแผนดูแลทั้งภาคธุรกิจ และลูกจ้างอย่างเป็นธรรม
แม้รัฐมนตรีว่ากระทรวงแรงงานจะเร่งรัดให้เกิดการเลือกตั้งอนุกรรมการค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละจังหวัด เพื่อใช้กลไกของไตรภาคี แต่การใช้กลไกไตรภาคีต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แรงงานควรจะได้ค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น และต้องชัดเจนพี่น้องแรงงานว่าแต่ละปีจะขึ้นกี่บาท ส่วนประเด็นสวัสดิการที่ต้องการเรียกร้อง ได้แก่ ความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งกลับเข้ามา รัฐบาลยืนยันว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่เงินบำนาญถ้วนหน้า 3,000 บาทแก่คนชรายังคงเป็นปัญหา รัฐควรจะเข้ามาดูแลเรา
ส่วนบอร์ดประกันสังคม ซึ่งเป็นบอร์ดที่ตั้งขึ้นมาด้วย ม.44 จากอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำรัฐประหารในปี 2557 เป็นผลทำให้ต้องยุบบอร์ดที่มาจากการเลือกตั้ง โดยการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมที่จะมีขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ อยากให้กระทรวงแรงงานปรับระเบียบที่ล้นเกิน เช่น ผู้ประกันตนที่จะลงสมัครบอร์ดดังกล่าว ต้องส่งเงินสมทบกองทุน 36 เดือน หรือ 3 ปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้แรงงานไม่สามารถส่งเงินสมทบได้อย่างต่อเนื่อง ไม่รวมผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่เป็นแรงงานข้ามชาติอยู่ล้านกว่าคน ซึ่งระเบียบกระทรวงแรงงานตัดสิทธิ์ผู้ใช้แรงงานข้ามชาติ ทั้งที่กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ พี่น้องแรงงานข้ามชาติก็เป็นผู้ประกันตน เขาจึงมีสิทธิเลือกผู้แทนไปดูแลเรื่องสวัสดิการสังคมของเขาด้วย
โดยข้อเรียกร้องที่กลุ่มเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนเรียกร้อง ได้แก่ การเพิ่มค่าแรง 450 บาท และเพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันสังคม ได้แก่ ปรับปรุงคุณภาพการรักษาพยาบาล เพิ่มค่าทำฟัน 1,500 ค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 20,000 บาท, เพิ่มเงินสงเคราะห์เลี้ยงดูบุตร 1,200 บาทต่อเดือนจนถึงอายุ 15 ปี, ทดแทนรายได้ว่างงาน 80% ของค่าจ้าง, บำนาญชราภาพ 50%ของค่าจ้าง, เลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมในเดือนธันวาคม 2566 โดยแก้ไขระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จากเดิมที่กำหนดให้ต้องมีสัญชาติไทย เปลี่ยนเป็นผู้ประกันตนทุกคน แก้ไขระเบียบผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ต้องส่งเงินสมทบติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนเดือนที่มีการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม และแก้ระเบียบผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้ง และผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนต้องส่งเงินสมทบติดต่อกันไม่น้อยกว่า 12 เดือนนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
