POLITICS

โฆษก ปชป.ปัดกระแส ‘เฉลิมชัย‘ ดีลข้ามขั้ว ส่วนท่าทีร่วมรัฐบาลต้องรอ กก.บห.ชุดใหม่

โฆษก ปชป.แจงเหตุ เลื่อนเคาะหัวพรรคคนใหม่ ปัดกระแส ‘เฉลิมชัย‘ ดีลข้ามขั้ว ส่วนท่าทีร่วมรัฐบาลต้องรอดูกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

วันนี้ (21 ก.ค. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงทิศทางการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 2 เพื่อเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า วันนี้มีการประชุมเพื่อจะกำหนดวัน เวลา และสถานที่ที่จะจัดประชุม โดยเหตุผลที่ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่านมามีการกำหนดจำนวนสมาชิกเพื่อให้เป็นองค์ประชุมใหญ่เพิ่มเติม จากนั้นก็มีกรรมการบริหารพรรคได้ลุกขึ้นเสนอให้มีการกำหนดจำนวนองค์ประชุมเพิ่ม จากที่มีเพิ่มขึ้นจากทุกภาค ภาคละ 25 คน

จากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการบริหารในวันนี้ก็จะพิจารณาออกระเบียบข้อบังคับ ที่จะกำหนดวิธีการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาเป็นองค์ประชุมใหม่ แล้วจึงจะต้องทำหนังสือแจ้งต่อองค์ประชุมไม่น้อยกว่า 5 วัน ตามข้อบังคับ

ส่วนผู้ที่เสนอให้เพิ่มองค์ประชุม คือ นายวิรัช ร่มเย็น นายทะเบียนพรรค โดยได้เปิดให้ที่ประชุมลงมติ นายราเมศ ยืนยันว่าทางพรรคอยากให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกหัวหน้าพรรค โดยไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ และหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ที่ประชุมวันนี้น่าจะมีการพูดคุยกัน

ส่วนกระแสข่าวที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค มีความต้องการจะร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายราเมศ ระบุว่า ไม่อยากให้มีการรายงานข่าวในลักษณะนี้ เพราะพรรคจะเกิดความเสียหายได้ อีกทั้งประชาชนจะ สับสนว่า พรรคมีกฎเกณฑ์กติกาในการร่วมรัฐบาลอย่างไร ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ ต้องผ่านการพิจารณาเป็นวาระที่สำคัญ ไม่ใช่ว่าใครจะใช้อำนาจโดยพลการ ไปตกลงปลงใจ กำหนดว่าจะร่วมรัฐบาลกับใคร

ส่วนรายงานข่าวอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วง คือ มีการอ้างว่า เพจของพรรคโพสต์ว่า มี 16 สส. ของ พรรคปันใจให้กับพรรคภูมิใจไทย นายราเมศ ยืนยันว่า ทางเพจของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยพูดถึงเรื่องเหล่านี้ การเขียนวิเคราะห์ในลักษณะนี้เป็นสิทธิก็จริง แต่ไม่ได้เป็นจริง สส.16 คนของพรรค อยู่ภายใต้ข้อบังคับพรรค และจะดำเนินกิจการทางการเมืองในทิศทางใดก็แล้วแต่ก็ต้องประชุมหารือเพื่อให้เกิดเป็นมติของพรรค ส่วนทางพรรคคงไม่ฟ้องร้องในเรื่องนี้ แต่ตนเองในฐานะโฆษกของพรรคมองว่า พรรคจะมีมติในการร่วมรัฐบาลหรือเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไร คงจะตอบไม่ได้ แต่ในอนาคตหากได้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว จะมีมติอย่างไรในเรื่องดังกล่าวตนเองก็จะเป็นผู้แจ้งกับสื่อมวลชนต่อไป

ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 30 กรกฎาคม นี้ เพื่อให้ตัดสินใจเรื่องการร่วมรัฐบาลอย่างรวดเร็วหรือไม่ นายราเมศกล่าวว่า ทุกอย่างไปตามกระบวนการเป็นไปตามข้อบังคับเพื่อความระเอียดรอบคอบ

ส่วนหากมีหัวหน้าพรรคคนใหม่เป็นใคร จะเป็นการชี้ให้เห็นถึง จุดยืนในการร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายราเมศระบุว่า การเลือกหัวหน้าพรรค เป็นกระบวนการของพรรคไม่ได้เกี่ยวกับจุดยืน อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนที่ชัดเจนมาตลอดว่า ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไปในทิศทางใด โดยยึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งสังคมอาจจะตั้งคำถามได้ว่า ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนท่าทีหรือไม่ ตนเองก็ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะก็ต้องผ่านการประชุมกับทั้ง 2 ภาคส่วน คือส่วน ของ สส. และคณะกรรมการบริหารพรรค

นายราเมศ ยังอีกระบุว่าสำหรับการแข่งขันในการเลือกหัวหน้าพรรคนั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่การดึงเชิงกัน แต่ความเป็นสถาบันทางการเมือง ไม่มีใครสั่งใครมาเป็นหัวหน้าพรรคได้ เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อมีความเป็นประชาธิปไตยและมีการนำเสนอหัวหน้าพรรคหลายคนจึงต้องมีการหาเสียงกันเป็นเรื่องปกติ

เมื่อถามถึงท่าที ของพรรคหลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้พูดชัดเจนถึงจุดยืนเกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 นายราเมศ ย้ำว่า พรรคมีจุดยืนมาโดยตลอดกับการไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 เรายังมีรายละเอียดอีกเยอะในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการจะยกมือให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมาดูว่านโยบายของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองนั้นตรงกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่

นายราเมศ ยังได้ทิ้งท้ายว่าการจะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเราต้องฟังเสียงจากประชาชนที่เลือกเรามา โดยยกตัวอย่างการที่พรรคไม่ได้มีมติเห็นชอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เพราะพรรคฟังเสียงประชาชนที่เลือกพรรคมา ดังนั้นการจะเลือกนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องฟังเสียงประชาชนที่เลือกพรรคมาเช่นเดียวกัน และคงจะมีการประชุมอีกครั้ง โดยพิจารณาหลายๆ ส่วน ในการยกมือโหวตให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat