‘วันนอร์’ ยันทำหน้าที่ประธานสภาฯ เป็นกลางไม่หวั่นทัวร์ลง

‘วันนอร์’ ยันทำหน้าที่ประธานสภาฯ เป็นกลางไม่หวั่นทัวร์ลง แจงเหตุไม่ใช้อำนาจชี้ขาดข้อบังคับ เผยโหวต ‘พิธา’ ซ้ำได้อิงตามท้ายข้อบังคับที่ 41 แต่ไร้คนเสนอ

วันนี้ (21 ก.ค.66) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวชี้แจงหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า การประชุมวันที่ 19 กรกฎาคม เป็นการประชุมรัฐสภาในวาระเลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ซึ่งก่อนการประชุมมีข้อคิดเห็นไม่ตรงกันในบางประเด็น บางฝ่ายเสนอว่าไม่ควรเสนอชื่อซ้ำเพราะขัดกับข้อบังคับรัฐสภาที่ 41 บางฝ่ายเห็นว่าการเสนอนายกฯ ไม่ใช่ญัตติทั่วไป ไม่ควรใช้ข้อบังคับที่ 41

ตนเองได้เชิญวิปสามฝ่ายมาประชุมร่วมกันในวันที่ 18 กรกฎาคม ซึ่งตนเองได้ให้ฝ่ายกฎหมายพิจาณาประเด็นข้อแตกต่างของการใช้ข้อบังคับที่ 41 ซึ่งมีความเห็นแบ่งออกเป็นสองฝ่ายเช่นกัน เสียงข้างมาก 8:2 เห็นว่าควรใช้ข้อบังคับที่ 41 ในฐานะประธานสภาฯ จึงรับความเห็น จำเป็นต้องขอความเห็นของที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 19 กรกฎาคม ใช้เวลาถกเถียงอยู่ 3 ชั่วโมง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ มีคนให้แนวทางว่าหากเอาข้อบังคับที่ 151 มาใช้ประกอบกันจะทำให้ได้ข้อยุติได้ ประธานสภาฯ จึงเห็นควรให้ตีความข้อบังคับ แต่การตีความเรื่องลำดับศักดิ์ของกฎหมายเป็นหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ จึงให้แสดงความเห็นต่อจนหมดผู้อภิปราย จากนั้นเปิดให้ลงมติ ซึ่งเสียงข้างมาก 395 เสียง เห็นด้วยกับการไม่เสนอชื่อนายพิธาซ้ำ

ทั้งนี้ตามท้ายข้อบังคับที่ 41 ระบุไว้ว่าหากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงให้เสนอญัตติที่มีหลักการอย่างเดียวเดียวกัน เข้ามาใหม่ในสมัยประชุมเดียวกันได้ แต่ไม่มีสมาชิกท่านใดเสนอ จึงเท่ากับว่าเป็นการเห็นชอบกับมติดังกล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าตนเองทำหน้าที่ตามข้อบังคับแล้ว เป็นกลางทางการเมืองตามที่ได้เสนอนโยบายไว้ ไม่รับฟังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนจะส่งผลต่อการยื่นชื่อแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ยุติไปแล้ว หากประธานไม่ปฏิบัติตามมติก็จะมีคนไปร้องต่อ ป.ป.ช. มีประธานสภาฯ หลายคนถูกร้องพ้นจากตำแหน่ง ก็ยังไม่หลุดพ้นข้อกล่าวหา

เมื่อถามถึงกรณีทัวร์ลง และพรรคก้าวไกลระบุว่า หากพรรคก้าวไกลปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาฯ จะเหมาะสมกว่า นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนเองปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องแล้ว ใครจะคิดอย่างไรเป็นเรื่องของแต่ละคน คิดแตกต่างกันได้ ไม่มีปัญหา ตนเองยึดมั่นว่าเมื่อได้ทำหน้าที่นี้แล้วจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เป็นกลางที่สุด ได้นายกฯ ตามที่ประชาชนต้องการ เป็นเรื่องธรรมดาการตัดสินใจอะไรมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย สังคมเห็นตรงกันทุกเรื่องคงเป็นไปได้ยาก

ส่วนที่พรรคก้าวไกลจะยื่นที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการลงมติดังกล่าว ก็เป็นสิทธิของทุกคนไม่มีปัญหา หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามติดังกล่าวขัดกับรัฐธรรมนูญ ถ้าศาลเห็นว่าใช้ไม่ได้ก็ต้องดำเนินตามเพราะว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร ส่วนจะเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้อีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็มีสิทธิยื่นได้ พร้อมย้ำว่าการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ยังเป็นวันที่ 27 กรกฎาคมตามเดิม ส่วนวันที่ 26 กรกฎาคม จะนัดประชุมวิป 3 ฝ่ายในเวลา 14.00 น.

นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงต่อว่าในการประชุมเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ประธานสภาฯ มีอำนาจชี้ขาดได้แต่ก็มีคนฟ้องได้เช่นกัน ไม่ใช่ไม่กล้าชี้ขาด แต่เป็นเรื่องของความขัดแย้งของข้อบังคับ จึงเปิดโอกาสให้รัฐสภาที่เป็นองค์กรสูงสุดฝ่ายนิติบัญญัติตีความ ดีกว่าให้ใครคนใดคนหนึ่งชี้ขาด ยืนยันว่าไม่มีวันท้อใจ เพราะเมื่อรับหน้าที่แล้วต้องปฎิบัติหน้าที่อย่างถึงที่สุด