นายกฯ ลั่น “ทุกอย่างวันนี้ก็ทำเพื่อประเทศทั้งนั้น”
ไม่อยากให้เครียด ไม่อยากให้ขัดแย้งในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ยันกู้เงินมาก็ตกถึงประชาชน-ไม่เคยผิดชำระหนี้ ชี้ประเทศมีเสถียรภาพ ไม่ลงเอยแบบศรีลังกา
วันนี้ (21 ก.ค. 65) เวลา 18:50 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี (รมต.) เป็นรายบุคคล วันที่สาม ภายหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคร่วมฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พลเอก ประยุทธ์ จึงลุกขึ้นชี้แจงว่า ขอขอบคุณท่านผู้อภิปรายเมื่อสักครู่นี้ (นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส. พรรคเพื่อไทย) โชคดีที่ท่านหยุดไปเมื่อตะกี้นี้ ห่วงท่านจะเจ็บคอหรือปวดท้อง เล่นทุกประเด็น ส่วนว่าท่านไม่มีอะไรกับผม ผมไม่เคยมีอะไรกับท่าน
เริ่มต้นจากที่มาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกอภิปรายว่ามาจากการเห็นชอบของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พลเอก ประยุทธ์ ชี้แจงว่า จาก ส.ว. ทั้งหมดมี 50 คนมาจากการคัดเลือกจากบุคคลกลุ่มต่าง ๆ ที่มีคณะกรรมการคัดสรรมาด้วยความเหมาะสม ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยไปก้าวล่วงกติกา ถ้าไม่มีชื่อผมเสนอมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ก็รับรองให้เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้
“มันมีหลายอย่างไม่ดีในช่วงที่ผมเข้ามาแก้ปัญหา” พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก่อนจะชี้แจงวิสัยทัศน์และนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล เน้นย้ำว่า ประเทศไทยไม่ได้ป่วยรั้งท้ายของภูมิภาค แต่มีดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ใหญ่เป็นอันดับ 2 อาเซียน แม้มีโควิด-19 แต่เศรษฐกิจยังคงเดินหน้าจากการขับเคลื่อนของรัฐบาล ประเทศไทยยังคงมีเสถียรภาพ เราไม่ได้เงินหมดเหมือนหลายประเทศ ราคาน้ำมันก็ต่ำเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่เกิดเหตุการณ์อย่างศรีลังกาแน่นอน โดยรัฐบาลมีทิศทางอย่างชัดเจน ผ่านการแบ่งกลุ่มภูมิภาคว่าจะติดต่อประสานงานกับใครบ้าง ตลอดจนวางแนวทางในการเจรจาพูดคุยผ่านกระทรวงต่าง ๆ ด้วย
“ไม่เคยมีรัฐบาลไหนเคยเจอสภาพที่ผมเจอในวันนี้ ท่านเป็น ส.ส. มาหลายปี ท่านเคยเจอสภาพนี้ไหมล่ะ” พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
สำหรับข้อกล่าวหาเรื่องการกู้เงินนั้น พลเอก ประยุทธ์ ชี้แจงถึงเป้าหมายของการกู้เงินว่า รัฐบาลใช้เงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อจัดหาวัคซีน รักษาประชาชน และเยียวยาผลกระทบประชาชน พร้อมทั้งใช้เงินกู้ 8.5 แสนล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบช่วงโควิด โดยเน้นย้ำว่าเงินกู้ตกถึงประชาชนโดยตรง คือ ประชาชนได้รับความช่วยเหลือกว่า 45 ล้านราย พร้อมทั้งกล่าวว่า “ท่านอาจจะบอกว่าผม กู้ กู้ กู้ แต่ผมก็เตรียมการว่าจะชำระหนี้เขาได้อย่างไร … เรายังไม่เคยผิดนัดชำระหนี้แม้แต่ครั้งเดียว”
ส่วนกรณีเหมืองทองอัครา ตามที่ นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส. พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พลเอก ประยุทธ์ ตอบว่า ต้องเจรจากันเพื่อดูว่าเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า เหตุผลที่ต้องใช้ ม.44 เพราะคราวนั้นมีเรื่องจากกระทรวงให้ระงับชั่วคราวเพื่อตรวจสอบไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีต้องดูแลเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
“ผมทำทุกอย่างวันนี้ก็ทำเพื่อประเทศทั้งนั้น จากสิ่งที่ท่านว่ามาก็นำมาแก้ไข ทำอย่างไรเราจะไม่เครียด ขัดแย้งกันอีกในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ผมเตือนไว้ก่อนนะ ผมไม่อยากเป็นรัฐบาลที่แก้ไขในเรื่องแบบนั้นอีก” พลเอก ประยุทธ์ ชี้แจงเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ
“ผมไม่ได้บอกว่าผมทำทุกอย่างแล้วเสร็จ เก่งทุกอย่าง สุดแล้วแต่ว่าท่านจะเชื่อหรือไม่” พลเอก ประยุทธ์ ชี้แจงประเด็นภาวะผู้นำอีกครั้ง หลังจากถูกอภิปรายต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้
พลเอก ประยุทธ์ ตอบทิ้งท้ายว่า มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องในอีกหลายกระทรวง แต่ข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่ผมทั้งหมด แต่ผมพูดไม่ไหวแล้ว เจ็บคอ