‘พิพัฒน์’ เผย ครม.เห็นชอบขยายเพดานยกเว้นภาษีค่าชดเชยสำหรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง

‘พิพัฒน์’ เผย ครม.มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงฯ ขยายเพดานยกเว้นภาษีค่าชดเชยสำหรับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง เป็น 6 แสนบาท บังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค. 66

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรหรือการปรับปรุงการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าชดเชยที่ลูกจ้างได้รับจากนายจ้างกรณีถูกเลิกจ้าง โดยกำหนดยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าชดเชยส่วนที่ไม่เกินค่าจ้างจาก 300 วันสุดท้าย เป็น 400 วันสุดท้าย เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 และขยับเพดานของค่าชดเชยที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจาก 300,000 บาท เป็น 600,000 บาท

ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติของผู้ใช้แรงงาน เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกจ้างหลังถูกนายจ้างเลิกจ้างให้ได้รับเงินก้อนสุดท้ายเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตแรงงาน โดยมีผลให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการจ่ายค่าชดเชยและการงดจ่ายภาษี กรณีได้รับเงินเนื่องจากออกจากงานเพื่อศึกษารายละเอียดและผลกระทบของการดำเนินการ ตลอดจนผลักดันให้เกิดผลสำเร็จ

คณะทำงานฯ เห็นว่ากฎกระทรวงฉบับที่ 217 บังคับใช้มาเป็นเวลานาน ประกอบกับ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มีการแก้ไขอัตราการจ่ายค่าชดเชย จาก 5 อัตรา เป็น 6 อัตรา จากลูกจ้างทำงานครบ 10 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 300 วัน เป็นลูกจ้างที่ทำงานครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชย 300 วัน และลูกจ้างที่ทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและอัตราค่าจ้างในปัจจุบัน จึงเสนอให้พิจารณาแก้ไขกฎกระทรวง รวมทั้งให้ครอบคลุมถึงกรณีการเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง