กกต.เคาะเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ไม่หวั่นศาลปกครองเพิกถอนแบ่งเขต

กกต.เคาะเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ไม่หวั่นศาลปกครองเพิกถอนแบ่งเขต ชี้แคมเปญระดมทุนเข้าพรรคการเมืองทำได้ แต่หากเกิน 1 หมื่นบาทต่อวันต้องแจ้ง กกต.ด้วย

วันนี้ (21 มี.ค.66) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ตามที่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 มีผลใช้บังคับในวันที่ 20 มีนาคม 2566 โดยกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป วันนี้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เสนอร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 5 ฉบับ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา โดยที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยมีภารกิจที่สำคัญ ดังนี้

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ส่วนวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง แบบบัญชีรายชื่อ และพรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนี้

วันที่ 3-7 เมษายน 2566 เป็นวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎ แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งประกาศกำหนด

วันที่ 4-7 เมษายน 2566 เป็นวันรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อและพรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.

โดยกำหนดระยะเวลายื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม – 13 เมษายน 2566 การแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งในระหว่างวันที่ 7-13 พฤษภาคม 2565 และ 15-21 พฤษภาคม 2566

พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เกี่ยวกับกรเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน จำนวน 5 ฉบับ ดังนี้

1.ร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวันเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง วันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อและสถานที่ที่พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ

2.ร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด โดยใช้ข้อมูลตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จำนวนเขตเลือกตั้งและท้องที่ที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้ง ลงวันที่ 16 มีนาคม 2566

3.ร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง การสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

4.ร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวันและเวลายื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง โดยกำหนดให้ยื่นคำขอลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม ถึงวันที่ 13 เมษายน 2566

5.ร่างประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวันและเวลาออกเสี่ยงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง สำหรับที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้ง ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง และที่เลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้ส่งประกาศดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาโดยเร็วต่อไป

นายแสวง กล่าวต่อถึงแผนรับมือต่อคำร้องแบ่งเขตเลือกตั้งที่มีไปยังศาลปกครอง ขณะนี้ยังไม่เห็นหมายศาล กกต.ก็ทำงานตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะไม่มีปัญหาอะไร ขอให้รอดูว่าศาลจะวินิจฉัยเช่นไร ที่ประชุม กกต.เตรียมการไว้พอสมควร ขอความร่วมมือไปยังทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ให้เคารพกฎหมายการเลือกตั้ง รัฐบาลรักษาการต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ห้ามการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง

กกต.แสวงหาความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ครั้งนี้มีหลายหน่วยงานจะเข้ามาร่วมมือกับ กกต. เพราะทุกฝ่ายอยากจะเห็นการเลือกตั้งที่ดี เช่น ไอลอว์ ก็จะมาพูดคุยกันในวันที่ 24 มี.ค.66 ขอให้เขาทำหน้าที่ตามจุดยืน ไม่ต้องเกรงใจ กกต. เพราะเราทำงานกันอย่างโปร่งใส พร้อมจะให้ตรวจสอบ รวมทั้งสื่อด้วย

เมื่อถามถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ รณรงค์ต่อต้านนโยบายพรรคภูมิใจไทย ร้องให้มีการยุบพรรค นายแสวง ระบุว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ จะทำอะไรต้องดูว่ากฎหมายเลือกตั้งเป็นอย่างไร และเมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาก็ต้องดูว่าทำได้แค่ไหน กกต. เรามีหน้าที่ดูแลตามกฎเกณฑ์

ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองหนึ่งรณรงค์ระดมทุนบริจาคเงินให้กับพรรค เบื้องต้นได้ตรวจสอบ มองว่าอาจจะเป็นรูปแบบหนึ่งในการหาเสียงทั้งผู้สมัคร และพรรค หรือตัวบุคคลสามารถรรับบริจาคจากบุคคลได้เพื่อใช้ประโยชน์ในการเลือกตั้ง แต่ถ้ารวมเงินแล้วเกิน 10,000 บาทต่อวัน จะต้องมีการแจ้งให้ กกต. ทราบภายใน 7 วัน