POLITICS

‘อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา’ ถือฤกษ์ยุบสภาฯ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เดินเครื่องเลือกตั้งเต็มที่

‘อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา’ ถือฤกษ์ยุบสภาฯ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชี้ จากนี้เดินเครื่องเลือกตั้งเต็มที่ ‘เศรษฐา’ เล็งรื้อยุทธศาสตร์20 ปี

วันนี้ (21 มี.ค. 66) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินสายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้านเมือง ทั้งศาลหลักเมือง กทม. พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ณ ปราสาทพระเทพบิดร ในพระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทย ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังนายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวานนี้ (20 มี.ค. 66)

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันดี ที่จะมาไหว้พระขอพร แต่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว และการเดินสายหาเสียงหลังจากนี้จะลุยอย่างเต็มที่ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยก็ได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ส่วนตัวหลังจากนี้จะลงพื้นที่ด้วยหากพื้นที่ไหนใช้เวลาเดินทาง 1-2 ชั่วโมง เพราะยังไหว แต่จะไม่ได้ไปค้างนอกสถานที่ ซึ่งจะให้นายเศรษฐาลงพื้นที่แทน และจะปรับเปลี่ยนเป็นการวีดีโอคอล หรือการเปิดบันทึกภาพเคลื่อนไหวแทน เพื่อให้การสื่อสารครบทุกพื้นที่มากที่สุด

นายเศรษฐา กล่าวเสริมว่า การลงพื้นที่หลังจากยุบสภาฯ จะลงพื้นที่ทุกวัน และจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้นมีการวางตารางไว้บ้างแล้ว

ส่วนการเลือกตั้งทั่วไป ที่คาดว่าจะกำหนดเป็นวันที่ 14 พฤษภาคมนั้น นางสาวแพทองธาร ตอบทันทีว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมอยู่แล้ว จะเลือกตั้งพรุ่งนี้เลยก็ได้ และจะไปใช้สิทธิแน่นอน เพราะคาดว่า น่าจะคลอดช่วงปลายเดือนเมษายน หรือต้นเดือนพฤษภาคม

ขณะที่นายเศรษฐา กล่าวเสริมขึ้นมาทันที โดยหวังว่านางสาวแพทองธาร จะได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย เพราะเป็นเวทีสำคัญมาก และขาดไม่ได้

ด้านนางสาวแพทองธาร ตอบรับว่า ถ้าเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม ก็จะได้เห็นตนเองขึ้นเวทีปราศรัย

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะต้องอยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค และส่วนตัวย้ำมาเสมอว่า อยู่ตำแหน่งอะไรก็ได้ ที่ทำเพื่อช่วยประเทศ เพราะทำคนเดียวไม่ได้อยู่แล้ว ต้องช่วยกันเป็นทีม

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัคร จังหวัดพะเยา เพื่อหลีกทางให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นายแพทย์ชลน่าน ย้ำว่า เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต แต่ตราบใดก็ตามที่ยังไม่ได้ทำไพรมารีโหวตความเห็นจากประชาชน ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอด ยืนยันไม่มีการดีลอะไร เพราะหากประชาชนไม่ยอม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวได้

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าจะอวยพรอะไรให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องในวันคล้ายวันเกิด นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ก็ขออวยพรให้สุขภาพแข็งแรง

ด้าน นายเศรษฐา ก็อวยพรให้ พลเอก ประยุทธ์ มีร่างกายแข็งแรงเช่นกัน

ส่วนรณรงค์เลือกตั้งหลังจากนี้ ก็ขอให้พลเอกประยุทธ์ สู้ศึกเลือกตั้งไปด้วยกัน เพราะถือว่าเป็นคำที่เหมาะสม เนื่องจากไม่ได้สู้กัน แต่เพื่อไทยเน้นนำเสนอนโยบายมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสู้กับความยากจน ความไม่เท่าเทียม และความไม่เสมอภาค ซึ่งเอาชนะใจประชาชนมาได้ตลอด

ส่วนกรณีที่พลเอกประยุทธ์ ฝากถึงรัฐบาลหน้าขอให้ดำเนินตามกรอบปัจจุบันให้มากที่สุดนั้น นางสาวแพทองธาร ตอบว่า ต้องดูประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักว่ากรอบที่รัฐบาลเดิมทำอยู่นั้น ประชาชนได้ประโยชน์อะไรบ้าง

สำหรับการวางกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าเอื้อประโยชน์ระยะยาวให้คนบางกลุ่มแม้พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลนั้น นายเศรษฐา มองว่า ประโยคหลักคือเอื้อประโยชน์ เราไม่รับตรงนี้แน่นอน เราไม่เอาแน่นอน ก่อนจะหันไปถาม นายแพทย์ชลน่าน ว่า ใช่ไหมเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่

นายแพทย์ชลน่าน จึงกล่าวเสริมว่า ยุทธศาสตร์ชาติเป็นประเด็นหนึ่งที่พรรคเพื่อไทย ขอยื่นแก้ไขมาโดยตลอดในรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการวางแนวทางที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทการเปลี่ยนแปลงของโลกในขณะนี้ ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยมีโอกาสเข้าไปเป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำคือทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ส่วนบริบททางการเมืองและตัวรัฐธรรมนูญ จะต้องเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่จะต้องแก้ไขเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ

Related Posts

Send this to a friend