POLITICS

‘ก้าวไกล’ แถลงคัดค้านการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ. ประกันสังคม

‘ก้าวไกล’ แถลงคัดค้านการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ. ประกันสังคม ล้มเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ทำลายการมีส่วนร่วมของผู้ประกันตน

วันนี้ (21 ก.พ. 67) นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส.พรรคก้าวไกล แถลงคัดค้านการเสนอกฎหมายประกันสังคมทำลายการมีส่วนร่วมของผู้ประกันตนในการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม จากกรณีที่กระทรวงแรงงานจะเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกันสังคมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พระราชบัญญัติดังกล่าว มีการแก้ไขจากฉบับเดิมหลายมาตรา สิ่งสำคัญ ที่ตนเองในฐานะ สส.สัดส่วนเครือข่ายผู้ใช้แรงงานพรรคก้าวไกล และ สส.ทุกท่านขอคัดค้าน พวกเราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการแก้ไขที่มาของคณะกรรมการประกันสังคมฝ่ายผู้ประกันตน และนายจ้าง หรือบอร์ดประกันสังคม โดยให้เปลี่ยนจากเดิมที่เป็นแบบเลือกตั้ง ไปเป็นแบบแต่งตั้ง

ตามเนื้อหาในร่างกฎหมาย ’หลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน‘ เนื่องจากเมื่อก่อนนั้น การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมจะมาจากการเลือกตั้งของผู้แทนสหภาพแรงงาน 1 สหภาพแรงงานมี 1 เสียง ไม่ว่าสหภาพแรงงานจะมีสมาชิก 5,000 คน หรือมีสมาชิกแค่ 50 คน ก็มี 1 เสียงเท่ากัน ดังที่ทุกท่านทราบ ประเทศไทยมีจำนวนสหภาพแรงงานเพียงแค่ราว 1,400 แห่งเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก มีสถานประกอบการจำนวนมากที่ไม่มีสหภาพแรงงาน และมีผู้ใช้แรงงานจำนวนมากที่ไม่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน และผู้ประกันตนส่วนใหญ่ในช่วงเวลานั้น จึงไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมทั้งๆ ที่พวกเขาจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมทุกๆ เดือน

นายเซียกล่าวต่อว่าที่ผ่านมาผู้ใช้แรงงานจำนวนมากได้พยายามเสนอให้มีการเลือกตั้งโดยตรงจากผู้ประกันตน คือ 1 ผู้ประกันตน 1 สิทธิ์ แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับจากรัฐบาลแต่อย่างใด จนต่อมาเมื่อมีการทำรัฐประหารปี 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอซา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กระทำการช้ำร้ายในวันที่ 8 พ.ย. 2558 โดยมีคำสั่งที่ 40/2558 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการประกันสังคมใหม่ทั้งหมด แทนที่ชุดเดิมที่มาจากการเลือกตั้งโดยผู้แทนสหภาพแรงงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

นายเซีย กล่าวเพิ่มเติมกว่าตนเองเป็นคนหนึ่งที่ได้ร่วมกับพี่น้องแรงงานในการติดตามทวงถามต่อรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม และผู้ที่เกี่ยวข้องหลายต่อหลายครั้ง เมื่อตนเองได้รับเลือกตั้งเป็น สส. ก็ได้อภิปรายติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้ชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2566 ว่า สำนักงานประกันสังคมจะจัดให้มีการเลือกตั้งโดยตรงแบบ 1 ผู้ประกันตน 1 สิทธิ์

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เลขาฯ ประกันสังคมชี้แจงแล้ว ข่าวเรื่องการเลือกตั้งก็เงียบหายไปอีก โดยสำนักงานประกันสังคมไม่เคยสื่อสารเรื่องความคืบหน้าใดๆ ให้ผู้ประกันตนได้รับทราบอีกเลย จนถึงช่วงต้นเดือน ต.ค. 2566 ที่สำนักงานประกันสังคมประกาศให้ผู้ประกันตนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง เริ่มลงทะเบียนภายในวันที่ 12-31 ต.ค. 2566 มิฉะนั้น จะหมดสิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ไปโดยปริยาย

นายเซีย กล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นมีผู้ประกันตนน้อยคนที่รับรู้เรื่องการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม หรือขั้นตอนการลงทะเบียนตามที่สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดไว้ ส่งผลให้หลายหน่วยงานตั้งคำถามต่อประสิทธิภาพการประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประกันสังคม รวมไปถึงผลลัพธ์ที่ทำให้มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งเพียงประมาณ 10% จากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งเท่ากับว่าผู้ประกันตนส่วนใหญ่หลายล้านคนจะเสียสิทธิ์ของตนในการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้สำนักงานประกันสังคมได้ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนถึงวันที่ 10 พ.ย. 2566 ก่อนจะจัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2566 และประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2566

ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เราเห็นว่าแม้จะมีการเลือกตั้งประกันสังคมแล้ว แต่สภาพปัจจุบันก็ยังเต็มไปด้วยอุปสรรคในการใช้สิทธิออกเสียงของผู้ประกันตน โดยหลายฝ่ายก็ทยอยแสดงความเห็นว่า สำนักงานประกันสังคม และผู้ที่เกี่ยวซ้องควรเดินหน้าปรับปรุงในด้านต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับกระบวนการการเลือกตั้งมากขึ้นตามครรลองประชาธิปไตย เพื่อให้มีตัวแทนเจ้าของเงินเข้าไปดูแลเงินที่เขาจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมในทุกๆ เตือน แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นว่ากระทรวงแรงงานกำลังทุ่มแรงทำลายการมีส่วนร่วมของผู้ประกันตนแทน

นายเซีย กล่าวว่าในวันนี้ กระทรวงแรงงานได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยในเนื้อหาของร่างกฎหมายนั้นเหมือนว่าสำนักงานประกันสังคมต้องการจะย้อนกลับไปล้าหลังกว่าเดิม โดยระบุในมาตรา 8 ว่า “หลักเกณฑ์และวิธีการได้มาซึ่งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี”

“วันนี้ในเมื่อเรามีกฎกติกาที่ก้าวหน้ามาไกลแล้ว ทำไมถึงได้มีความพยายามดึงถอยหลังกลับไปอีก ผมและคณะจึงขอคัดค้านในประเด็นดังกล่าว รวมถึงขอเชิญชวนสมาชิกคณะรัฐมนตรีทุกท่าน มาร่วมคัดค้านกับเราด้วย เพราะเราต้องการให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยน้อยลง ดังนั้น ในการเลือกตั้งขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของผู้ใช้แรงงาน ของคนทำงาน 99 % เราจึงสมควรปกป้องความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ใช่มัวหวาดระแวงการเลือกตั้งเยี่ยงรัฐบาลเผด็จการ” นายเซีย กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend