’ประเสริฐ‘ ยัน ‘ไชยา พรหมา’ ลาออก ’เพื่อไทย’ จบกันด้วยดี
แจงเหตุ ความจำเป็นทางการเมืองพื้นที่หนองบัวลำภู ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตน ด้าน ‘ชูศักดิ์‘ หวั่น เลือกตั้งครั้งนี้ดุเดือด กลายเป็น “Money Politics” ใช้เงินอย่างมหาศาล ส่อนำไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมือง วอน กกต. – รัฐบาล คุมเลือกตั้งให้สุจริต
วันนี้ (20 ธ.ค. 68) เวลา 11:15 น. ที่พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 69 โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะมีอีเวนท์ใหญ่ คือการเปิดตัวผู้สมัคร สส.เขต 400 เขต และบัญชีรายชื่อ 100 คน ซึ่งตอนนี้ มีผู้สมัครครบหมดแล้ว
ในส่วนของ นายไชยา พรหมา อดีต สส.หนองบัวลำภู ที่ได้ลาออกไป ก็มีสมัครมาทดแทนแล้ว และมีศักยภาพในพื้นที่ เขต 2 จ.หนองบัวลำภู พร้อมเป็นผู้สมัครพรรคเพื่อไทย พร้อมยืนยันว่า พรรคไม่มีปัญหาในการหาผู้สมัคร โดยนายไชยาได้ส่งเอกสารมาทางไลน์ ถึงหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ไม่ได้ระบุเหตุผลจำเป็นในการลาออก แต่มีการกล่าวขอบคุณที่อยู่กับพรรคเพื่อไทยมา ตนก็ไม่ทราบเหตุผลในการย้ายไปสังกัดพรรคอื่น และไม่ได้แจ้งว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองใด และในขณะที่อยู่พรรคนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ทั้งนี้ พรรคได้ให้การสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และเป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่งของพรรค ยืนยันว่าไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ต่อกัน ซึ่งเอกสารส่งมาเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) เวลาประมาณ 15:00 น. ทางพรรคก็รับทราบ หลังจากนั้นก็มีผู้ประสานมาทันทีว่าสนใจจะสมัครรับเลือกตั้ง ก็ขณะนี้ก็เข้าสู่กระบวนการสรรหาของพรรคเรียบร้อยแล้ว
“ในเอกสารที่ท่านไชยาส่งมาระบุว่า ได้ตัดสินใจยื่นลาออกจากพรรคเพื่อไทยด้วยเหตุผลความจำเป็นทางการเมือง ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ส่วนตนแต่ประการใด ท่านเขียนมาแบบนี้ ส่วนข้อความอื่นก็เป็นข้อความที่ขอบคุณพรรค” นายประเสริฐ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าในวันที่ใกล้เปิดรับสมัครจะไม่มีใครถอนตัวเพื่อให้พรรคมีความยุ่งยากหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ในวันเสาร์อาทิตย์นี้ น่าจะหมดเวลาแล้ว เพราะในกระบวนการสมัคร สส.ต้องมีการทำ Primary Vote ถ้าจะสมัครให้ทันในวันแรกของการรับสมัคร แต่ละพรรคต้องเตรียมความพร้อมภายในเสาร์นี้ หรืออย่างช้าสุดวันอาทิตย์ เพื่อให้พรรคดำเนินการให้ทันเวลาที่ กกต. กำหนด จึงเชื่อว่าคงไม่มีใครถอนตัวแล้ว
สำหรับกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้รับแจ้งจากผู้ที่ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง และผู้สนับสนุนพรรคในหลายพื้นที่ว่ามีบุคคลและกลุ่มบุคคล สุ่มเสี่ยงใช้อำนาจข่มขู่คุกคามผู้ประสงค์ลงสมัครในพรรคเพื่อไทย ในเรื่องนี้ก็เคยปรากฏเป็นข่าว จึงขอวิงวอนไปยังสองหน่วยงานหลัก คือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่กำกับดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากช่วงเวลานี้เข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว เพื่อให้การเลือกตั้งนี้มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด และอีกหน่วยงานคือ รัฐบาลในฐานะกำกับดูแลทุกภาคส่วน จะต้องไม่ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะในสถานการณ์ที่มีการเลือกตั้ง บางสีบางกลุ่มที่มีชื่อเสียงด้านลบ มาใช้อำนาจไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่ควรปล่อยช่องว่างนี้ให้เกิดข้อกังขาว่า ไม่เป็นกลางและไม่เป็นธรรมในการเลือกตั้ง ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้กำชับไปยังทุกภาคส่วน ให้เตรียมเก็บหลักฐานพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการใช้อำนาจข่มขู่คุกคาม ใช้อำนาจในทางที่มิชอบ เพื่อเป็นหลักฐานนำเสนอยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้าน นายชูศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ในฐานะที่ตนอยู่แวดวงการเมืองมานานพอสมควร ประสบการณ์ของการเลือกตั้งครั้งนี้จะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างหนึ่งคือมีการย้ายพรรคกันเป็นว่าเล่น แล้วเบื้องหลังของการย้ายพรรคนั้น ทุกคนก็คงทราบดีว่ามีเบื้องหลังอย่างไร
“ผมก็พูดมาโดยตลอดว่าการเมืองแบบนี้จะนำไปสู่ที่เขาเรียกว่า “Money Politics” คือการใช้เงินกันอย่างมหาศาลในการเลือกตั้ง และจะนำไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมือง เมื่อชนะการเลือกตั้งก็จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อถอนทุน ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ผมมองว่าเป็นเรื่องที่อันตรายจึงอยากฝากไปถึงพรรคการเมืองทั้งหลาย ว่าเรื่องนี้อย่าคิดว่าทำกันง่ายๆ เพราะจะส่งผลเสียหายต่อประเทศชาติและประชาธิปไตยที่จะเดินไปข้างหน้า“ นายชูศักดิ์ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ คงจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีบ้านเล็ก บ้านใหญ่ มาต่อสู้กันอย่างเข้มข้น โดยใช้ปัจจัยเป็นเรื่องหลัก ซึ่งเราคำนึงถึงเรื่องนี้ และพรรคเพื่อไทยก็ได้เตรียมการในแง่ของการเลือกตั้ง และเราคิดว่าอาจจะมีการโกงการเลือกตั้งกันพอสมควร โดยสัปดาห์นี้เราได้วางแผน การประชุมและจัดตั้งศูนย์ปราบโกงเพื่อดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม และดำเนินการสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนและหากจัดตั้งเสร็จแล้วจะแถลงให้ทราบต่อไป












