’ประเสริฐ’ มอบ Depa-BOI ยกเว้นภาษีนิติบุคคลสูงสุด 100% 3 ปี ดึงดูดลงทุน ‘Smart City’
‘ประเสริฐ’ มอบ Depa-BOI ยกเว้นภาษีนิติบุคคลสูงสุด 100% 3 ปี ดึงดูดลงทุน ‘Smart City’ พร้อมลดหย่อนภาษีซื้อสินค้า-บริการ เปิดทางชุมชนออกแบบ Smart City ด้วยตัวเอง
วันนี้ (20 พ.ย. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) ร่วมงาน Post Today Smart City 2024 ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้อง แกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ ‘ผลักดันไทยสู่ Smart City’
นายประเสริฐ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลให้ความสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมด้วยข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัย นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาขับเคลื่อนประเทศ และสานต่อนโยบายด้าน ‘Carbon Neutrlity’ เพื่อให้ไทยเป็นผู้นำอาเซียนในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไอออกไซด์ สร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้ผลิตสินค้าและบริการในประเทศสามารถเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้กติกาใหม่ของโลกที่ให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า เมื่อเข้ามาบริหารงานกระทรวงดิจิทัลฯ ได้ริเริ่มโครงการ ‘The Growt Engine of ThaiLand’ ที่จะมี 3 เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญ ประกอบด้วย
เครื่องยนต์ที่ 1 ยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ
เครื่องยนต์ที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพด้านความมั่นคงและปลอดภัย ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและผู้ใช้งานทุกคน
เครื่องยนต์ที่ 3 เพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ เพราะในประเทศบุคลากรเหล่านี้ยังมีไม่มาก
นายประเสริฐ กล่าวว่า เมืองอัจฉริยะหรือ Smart City จะมีตัวชี้วัดอยู่ 7 ด้าน ได้แก่ การเดินทางขนส่งอัจฉริยะ พลังงานอัจฉริยะ เศรษฐกิจอัจฉริยะ พลเมืองอัจฉริยะ การใช้ชีวิตอัจฉริยะ การบริหารจัดการภาครัฐอัจฉริยะ และสิ่งแวดล้ออัตฉริยะ ซึ่งหัวข้อบังคับขั้นต่ำสำหรับเมืองอัจฉริยะทุกเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย คือเรื่องของนโยบาย Carbon Neutrlity นอกจากนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็น Smart City จึงไส่งเสริม 3 ด้านสำคัญ
1.สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พัฒนามาตรการดึงดูดนักลงทุนในพื้นที่ Smart City ด้วยมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับนักลงทุนในเมืองอัจฉริยะสูงสุด 100% ของเงินลงทุน ระยะเวลาสูงสุด 3 ปี จากเดิมที่นักลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีกรณีลงทุนด้านดิจิทัลใน Smart City สูงสุด 50%
2.ให้ Depa ประสานงานกับ BOI เพื่อให้นักลงทุนใน Smart City ที่ซื้อสินค้าและบริการในบัญชีบริการดิจิทัล ได้รับการลดหย่อนเพิ่มเติมอีก 50%
3.ส่งเสริมการให้บริการแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองที่เป็นหัวใจในการยกระดับเมืองสู่เมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน สามารถติดตาม ประเมินและยกระดับเมืองต่อไปได้
“หัวใจของการยกระดับจากชุมชนเมืองสู่เมืองอัจฉริยะนั้น เรื่องสำคัญคือชุมชนจะต้องมีส่วนร่วม ต้องมีการสร้างความเข้าใจกับชุมชนว่า Smart City แบบไหนที่ชุมชนต้องการ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของแต่ละชุมชนแล้วจึงออกแบบเมืองให้สอดคล้องกับความต้องการและมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมีความเหมาะสม และไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกัน เพราะแต่ละเมืองมีความแตกต่างกัน ปัญหาของคนในแต่ละเมืองก็แตกต่างกันและแต่ละเมืองก็เอกลักษณ์ของตัวเอง ดังนั้นแนวคิดการเป็น Smart City จึงมีความแตกต่างกัน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าว
