POLITICS

โฆษกรัฐบาล แจง ผู้รอตรวจสอบคุณสมบัติ ‘คนละครึ่งพลัส’ 3 วัน ถือว่าจองสิทธิ์แล้ว

โฆษกรัฐบาล เผย คกก.เศรษฐกิจ รับทราบผลลงทะเบียน ‘คนละครึ่งพลัส’ พร้อมขอบคุณผลตอบรับประชาชน แจง ผู้รอตรวจสอบคุณสมบัติ 3 วัน ถือว่าจองสิทธิ์แล้ว ขอให้รอ SMS ย้ำ เดินหน้าเฟส 2 เดือน ม.ค. 69

วันนี้ (20 ต.ค. 68) เวลา 14:30 น. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกีบรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ว่า ในที่ประชุมวันนี้ได้มีการแจ้งผลการดำเนินงานโครงการคนละครึ่งพลัส พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจในการลงทะเบียนผ่านแอพเป๋าตังค์ จำนวนมาก

ส่วนคนที่รอลงยืนยันสิทธิ์ 3 วันนั้น นายสิริพงศ์ ยืนยันว่า เท่ากับได้จองสิทธิ์ไว้เรียบร้อยแล้ว และหลังจากนั้นจะมีการแจ้งสิทธิ์ว่าได้รับ 2,000 หรือ 2,400 บาท แต่หากไม่ได้รับ SMS ยืนยันอาจจะเป็นเพราะขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง

ส่วนกรณีที่เป็นผู้เสียภาษี แต่ได้รับสิทธิ์ 2,000 บาทนั้น นายสิริพงศ์ ระบุว่า ได้รับการแจ้งจากกระทรวงการคลังว่าผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ 2,400 บาทต้องมีการยื่นแบบภาษีเงินได้ ภง.ด.90 , ภง.ด.91 และ ภง.ด.95 ภายใน เดือนเมษายน ที่ผ่านมาเท่านั้นถึงจะได้รับสิทธิ์ 2,400 บาท

นอกจากนี้ นายสิริพงศ์ ยังขออภัยในความไม่สะดวกที่ได้เห็นภาพประชาชนไปรอยืนยันตัวตนโดยรัฐบาลได้เรียนกับธนาคารกรุงไทยว่า ขอให้มีการพัฒนาระบบเพิ่มเติม ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารกรุงไทยก็ได้มีการเพิ่มเติมจุดบริการเพิ่มขึ้นอย่างมาก และคิดว่าภายในสัปดาห์นี้สถานการณ์จะคลี่คลายไปได้

ในส่วนของร้านค้า นายสิริพงศ์ กล่าวว่า หลังจากนี้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ได้ตรวจสอบพบว่ามีประมาณ 300,000 ร้านค้าที่ลงทะเบียนมาแล้วต้องขอขอบคุณและขออภัยในความไม่สะดวกมาณที่นี้ด้วย ขณะเดียวกันรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันแล้วว่า คาดว่าจะมีโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือฝั่งผู้ขายสำหรับคนที่ผ่านเฟส 1 ไปแล้วจะต้องมีการอัพสกิลหรือรีสกิล

ส่วนประชาชนที่ใช้แอพเป๋าตัง ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในเฟสสอง คือจะต้องเป็นคนที่ที่ยังไม่ได้รับสิทธิ์ในเฟสแรก เท่ากับเป็นการขยายสิทธิ์ให้ โดยคาดว่า จะเริ่มต้นเฟสสองในเดือนมกรามกราคม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการยุบสภาฯ ก่อนจะทำเฟส 2 จะทำอย่างไร โฆษกรัฐบาล ระบุว่า เรื่องนี้ต้องไปถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก่อน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการพูดถึงเรื่องการเตรียมเสนอมาตรการ ช่วยเหลือประชาชนด้านพลังงาน คือ โซลาร์ชุมชน โซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร โซลาร์เซลล์ในสถานที่ราชการให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถซื้อไฟได้โดยตรง รวมถึงการซื้อโซลาร์ลอยน้ำ ซึ่งคาดว่านโยบายเหล่านี้จะสามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ เช่น ปกติประชาชนอาจจะซื้อไฟ 4.90 บาท แต่หากมีโซลาร์ชุมชนจะสามารถซื้อไฟได้ประมาณ 3.10 บาท แต่นโยบายเหล่านี้ต้องรอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องไปดูว่านโยบายไหนที่สามารถทำได้ทันที ซึ่งน่าจะมี 3 โครงการที่สามารถดำเนินการภายในสิ้นปีนี้คือโซลาร์ชุมชน โซลาร์เพื่อการเกษตร และการซื้อขายโซลาร์ได้

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ถัดไปคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ จะไม่มีการประชุม เนื่องจากนายกรัฐมนตรีต้องไปประชุม ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่ ประเทศเกาหลีใต้ ส่วนนโยบายอื่นๆ หลังจากนั้นจะเป็นการวางกรอบนโยบาย แต่อย่างไรก็ตามก็จะเร่งทำให้ทันสิ้นปี

Related Posts

Send this to a friend