‘แพทองธาร’ เชื่อมั่น ‘อุตสาหกรรมเกม’ ไทย ไปได้ไกลระดับโลก

‘แพทองธาร’ เชื่อมั่น ‘อุตสาหกรรมเกม’ ไทย ไปได้ไกลระดับโลก ยัน รัฐบาลพร้อมสนับสนุน พัฒนาศักยภาพ เพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศ

วันนี้ (20 ต.ค. 66) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวในระว่างการร่วมพิธีเปิดงาน THAILAND GAME SHOW 2023 ในหัวข้อ Gaming:Thailand’s New Soft Power ว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมเกมในประเทศไทยมีมูลค่าสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท ครองอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาหลายปี และเป็นอันดับประมาณที่ 20 ของโลก ซึ่งในการแข่งขัน Asian Games ที่ผ่านมา ทีม E-Sport ไทยสามารถคว้าเหรียญรางวัล เป็นอันดับหนึ่งใน South East Asia และเป็นอันดับสามของรายการ ตัวเลขเหล่านี้แสดงถึงศักยภาพของเยาวชนและคนไทยต่ออุตสาหกรรมเกม ทำให้มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าหากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ และมีระบบการสนับสนุนที่ดีจะสามารถไปได้ไกลระดับโลกอย่างแน่นอน

นางสาวแพทองธาร กล่าวต่ออีกว่าตนเองยินดีอย่างมากที่จะได้ประกาศอย่างเต็มที่ว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้จะสนับสนุนอุตสาหกรรมเกมอย่างเต็มที่ และประกาศได้อย่างเต็มปากอย่างที่ไม่เคยมีรัฐบาลอื่น ๆ ประกาศมาก่อนว่า เกม หรือ E-Sport เป็นหนึ่งใน 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุน ภายใต้นโยบาย OFOS – One Family One Soft Power

นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เกมเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่แข็งแรงมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลีใต้ ที่สามารถสร้างมูลค่าให้ประเทศอย่างมากมาย อาทิ เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศผู้นำเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ แต่อุตสาหกรรมเกมนำมูลค่าเข้าประเทศมากกว่าอุตสาหกรรรมหนัง ซีรีย์หรือเพลงต่าง ๆ ซึ่งทำให้รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก จึงอยากให้อุตสากรรมเกมของไทยไปไกลได้มากขึ้น

“ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอาจจะมองว่าเกมเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ในความจริงเกมคือเครื่องมือหนึ่งที่แฝงวัฒนธรรมความเชื่อต่าง ๆ จากภูมิภาคหรือประเทศนั้น ๆ ไปทำให้ประเทศต่าง ๆ ได้รู้จักวัฒนธรรมของประเทศเราผ่านการเล่นเกม อาทิ เกมซีรีย์ Home Sweet Home ที่เป็นแนวผจญภัย เป็นเรื่องความเชื่อของคนไทย มีตัวเลขความสำเร็จคือการดาวน์โหลดมากกว่า 8 แสนครั้งทั่วโลก จึงอยากให้ทุกท่านลองจินตนาการว่าการที่เด็กอายุ 14 ปีสามารถมีรายได้หลักแสนบาทได้ เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างมากจากความสามารถและศักยภาพของเขา ทำให้องค์กรใหญ่ ๆ ในประเทศต่าง ๆ ได้เล็งเห็นความสามารถ และสามารถมีรายได้ต่อเดือนถึง 30,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ยังไม่จบการศึกษาในระดับมัธยมปลาย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ทำให้เห็นว่าเด็กไทยมีศักยภาพอย่างมากและเราพร้อมสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่” นางสาวแพทองธาร กล่าว

นางสาวแพทองธาร ระบุว่า สำหรับใครที่อาจจะรู้สึกว่าไม่ถนัดในเรื่องของการสร้างเกมหรือเล่นเกม แต่กระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ในแง่มุมที่แตกต่างออกไป เช่น การจัดอีเว้นท์ใหญ่ ๆ ที่มีการใช้องค์ประกอบมากมายในสาขาต่าง ๆ ก็มีส่วนทำให้ทุกคนได้เรียนรู้และเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มศักยภาพของตัวเองในด้านอื่น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานได้ในอนาคต และอาจมีอาชีพใหม่เกิดขึ้นได้

“ยืนยันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมเกมให้เติบโตมากยิ่งขึ้นไปภายใต้ศักยภาพและความสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เรื่องของเกมเป็นตัวสร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจของประเทศต่อไปในอนาคต” นางสาวแพทองธาร กล่าว

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการเปิดตัวการ์ดที่เป็นคาแรคเตอร์ของนางสาวแพทองธารด้วย รวมถึงได้ถ่ายภาพร่วมกันกับทางผู้จัดงาน และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่มาร่วมงานด้วย