นายกฯ ถก 12 องค์กรจิตอาสา – เอกชน แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย ประสานทุกหน่วยงานเร่งเข้าไปดูแล
วันนี้ (20 ก.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน “ประสานพลัง ประสานใจ” ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรรัฐมนตรี นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรรัฐมนตรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งได้พูดคุยหารือร่วมกับคณะจิตอาสา 12 องค์กร และภาคเอกชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนต้นว่า ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ ที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เราเชื่ออยู่แล้วว่าทุกคนที่อยู่ที่อยู่หน้างานโดยตรง ได้เข้าช่วยเหลือทันที และนี่คือสิ่งที่แน่นอนว่าคนหน้างานตรงนั้น ถือว่าช่วยพี่น้องประชาชนได้อย่างมากมายรวมถึงจิตอาสาด้วย วันนี้ที่มาพูดคุยกันอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งรัฐบาล จิตอาสา เอกชน ประชาชนหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ต้องขอขอบคุณมาก ๆ และตอนนี้ของเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยเยอะ ฝ่ายหน้างานบอกว่าเรื่องของอาหารการกินค่อนข้างพอ แต่เราก็มาย้อนดูกันว่าจะทำอะไรเพิ่มเติมได้อีก หรือว่าแก้ปัญหาอย่างไรได้อีก เพราะตอนนี้ทราบอยู่แล้วว่าน้ำทางภาคเหนือมาถึงภาคอีสานแล้ว ซึ่งในวันนี้ขอให้ทุกคนมีข้อมูลอะไร หรือมีอะไรที่อยากจะบอกทางรัฐบาลให้สนับสนุน ทุกคนพร้อม และยินดีที่จะช่วยเหลือกัน และมีอะไรที่อยากให้รัฐบาลปรับปรุงตรงไหน ขอให้แชร์กันในวันนี้เลยจะดี วันนี้เรามีเอกชนหลายฝ่าย หลายคน มาจากหลายที่ และพร้อมสนับสนุนเราในหลาย ๆ ด้าน เพราะฉะนั้น ตรงนี้ถือเป็นวิธีที่ดี ที่จะสามารถบอกได้ เข้าใจว่าห้องนี้ดูใหญ่ และเกร็ง แต่อยากให้ทุกคนเข้ามา และบอกว่าพี่น้องต้องการอะไรบ้าง ขอให้แชร์กันได้อยากเปิดพื้นที่
สำหรับปัญหาที่ตัวแทนจากกลุ่มจิตอาสา และภาคเอกชนได้เสนอแนะต่อรัฐบาล เป็นในเรื่องของการช่วยเหลือในเฟสแรก ขณะนี้ในพื้นที่ภาคเหนือได้จบลงแล้ว แต่อยากให้เร่งเยียวยาช่วยเหลือในเฟสสอง รวมถึงอยากให้ทำเขื่อนที่บริเวณริมแม่น้ำสาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งแนะนำการใช้วิธีใช้เข็มตอกทั้งสองฝั่ง ห่างกัน 4 เมตร และการยกระดับพื้นที่ถนนเกาะทราย เพื่อป้องกันน้ำท่วมเกิดซ้ำ ปัญหาการจราจรในพื้นที่เนื่องจากมีรถของกู้ภัยเข้าไปในพื้นที่เยอะ และถนนแคบทำให้การจราจรติดขัด การเข้าไปช่วยเหลือแต่ละครั้งยากลำบาก ปัญหาด้านการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ซ้ำซ้อนกัน อยากให้นำเทคโนโลยี หรือทำแอปพลิเคชั่น เพื่อเก็บข้อมูลในส่วนนี้ และจะได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ ส่วนตัวแทนภาคเอกชนพูดถึงการเยียวยาในเรื่องของอุปโภค บริโภค ที่นำเข้าไปแจกประชาชนและการบริจาคทรัพย์สิน ซึ่งหลังจากนี้ จะช่วยในเรื่องยา และการเสริมพลานามัยของประชาชน และตัวแทนกู้ภัยจากแม่สาย ไล่เลียงถึงการแจ้งเตือนที่ไม่ทั่วถึง และน่าเชื่อถือ จึงอยากให้รัฐบาลแก้ไขในส่วนนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนรับมือกับเหตุการณ์ได้ทัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องเจ็ทสกีเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะในพื้นที่แคบ เรือไม่สามารถเข้าไปได้ หากมีเจ็ตสกีก็จะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้สูงอายุที่ติดอยู่ในตัวบ้านได้ทัน ส่วนเรื่องการจราจรที่มีปัญหาจะเร่งประสานทางจังหวัดโดยด่วน เพราะเป็นปัญหาของตัวจังหวัดเอง และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือกันมากมายขนาดนี้ และตอนนี้หน้าที่ของรัฐบาลที่เราเน้นย้ำกันอยู่ ที่ตั้งศูนย์ขึ้นมาเพื่อมอนิเตอร์น้ำท่วมทั่วประเทศ ไม่ว่าในเชียงราย เราจะทำอย่างไรให้เงินเยียวยาถึงมือประชาชนเร็วที่สุด และเราเห็นทางน้ำ ว่าจะไหลไปทางไหนจึงได้มีการประสานกองทัพ หน่วยงานราชการต่าง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งในพื้นที่แม่สายที่ได้รับผลกระทบรุนแรง เนื่องจากว่าพนังกั้นน้ำพังลง ต้องมีการแก้ไข รวมไปถึงได้เริ่มพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน เกี่ยวกับปริมาณน้ำ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามา เชื่อว่าทุกคนทุกหน่วย ได้ทำงานในแต่ละส่วน ต่างกันไป แต่อย่างทุกส่วนคือสิ่งสำคัญบางส่วนไม่ช่วยหน้างาน แต่หลังจบงานก็สำคัญเช่นกัน เพราะสิ่งที่รัฐบาลตั้งใจ คืออยากให้ความทุกข์ของพี่น้องประชาชนสั้นที่สุด การเยียวยาก็อย่าฟื้นฟูบ้านเรือนให้กลับมาอยู่สภาพเดิมให้เร็วที่สุด และงานวันนี้คือเป็นศูนย์รวมน้ำใจของคนไทย เพื่อช่วยคนไทยด้วยกันเอง คือสิ่งสำคัญ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง วันนี้เรามาร่วมกันด้วยความที่เราใจตรงกัน คือการช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เพราะฉะนั้น ไม่มีใครมาก หรือน้อยไปกว่าใคร ทุกคนตั้งใจจะช่วยจริง ๆ ขอให้กำลังใจทุกคนที่ทำหน้างานด้วย ขอบคุณเอกชนที่ส่งของอย่างไม่ขาดสาย
”น้ำใจของคนไทยยังอยู่ทั่วทั้งแผ่นดินไทย แน่นอนว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ก็มีโรงครัวพระราชทาน และฝากกระแสความห่วงใยมาตั้งแต่วันแรก ๆ อยู่แล้ว ก็ถือว่าอย่างน้อย ๆ ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น คนไทยก็ยังรักกัน และยังโชคดีในหลายหลายเรื่อง“ นายกรัฐมนตรี กล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมมอบสิ่งของอุปโภค – บริโภค ไปยังพื้นที่ประสบภัย บริเวณเสาธง หน้าตึกสันติไมตรี และถ่ายรูปร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และจิตอาสา ที่ให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุน ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และกล่าวขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยสรุปว่า วันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาลได้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล เอกชน จิตอาสา และอีกหลายหน่วยงานที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ก็ทำให้เห็นว่าประเทศไทยของเราในภัยพิบัติต่าง ๆ ยังมีความโชคดี คือคนไทยมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาตลอด ในวันนี้รัฐบาลมีหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ประสานใจ ของประชาชนทั้งประเทศ วันนี้ที่มีวิกฤติ ก็ขอให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนไหนก็ตาม ตอนนี้เรื่องน้ำท่วมลดน้อยลง แต่ปัญหายังมีเรื่องดินโคลนถล่ม ที่ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง หรือทุกกระทรวงเข้าไปช่วยเหลือ และถามถึงจุดต่าง ๆ พี่น้องประชาชนต้องการจะช่วยเหลือเพิ่มเติม
“วันนี้ที่เรามารวมกัน นับเป็นภารกิจที่ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน และอยากจะเร่งเยียวยาให้พี่น้องที่ประสบภัยตอนนี้มีความทุกข์ให้สั้นที่สุด เชื่อว่าทุกฝ่าย กำลังพลตามพื้นที่ที่ขอมา ได้ประสานไปเรียบร้อยหมดแล้ว และเมื่อสักครู่ได้มีการประสานว่าจังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ติดขัด ตำรวจได้เข้าไปดูในพื้นที่หมดแล้ว และเริ่มจัดคิวทุกอย่างให้การเดินทางในจังหวัดเป็นไปได้อย่างสะดวกและง่ายขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นทุกกระทรวง ทุกกรม ที่ช่วยกันบูรณาการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะราชการส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น ที่เป็นหน้าด่าน ในการรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติ เป็นหน่วยหลักในการดูแลพี่น้องประชาชนในขณะนี้ และที่ขาดไม่ได้ต้องขอคุณจิตอาสาทุก ๆ ท่าน รวมถึงภาคเอกชนที่วันนี้มาจับมือกับทางภาครัฐ ยังช่วยกันเสียสละกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์เพื่อช่วยกัน หวังว่าการเยียวยาหลังจากนี้ จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเต็มกำลัง
ตอนนี้มีการตั้งศูนย์ ศปช. เพื่อมอนิเตอร์น้ำท่วมทั่วประเทศ เพราะฉะนั้น เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เราจะสั่งการได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที ทั้งการส่งกำลังคนการส่งอาหาร การส่งเฮลิคอปเตอร์ หรือสิ่งต่าง ๆ เราจะสามารถสั่งการได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้ด้วย