POLITICS

‘สมคิด’ แจ้งดำเนินคดี ‘ฮุนเซน’ ปมคลิปเสียงคุย ‘แพทองธาร‘ ชี้ เป็นภัยความมั่นคงของประเทศ

‘สมคิด’ แจ้งดำเนินคดี ‘ฮุนเซน’ ปมคลิปเสียงคุย ‘แพทองธาร‘ ชี้ เป็นภัยความมั่นคงของประเทศ สร้างความแตกแยกให้คนไทย ยัน ไม่ใช่การแก้เกี้ยวให้นายกฯ แต่เป็นการทำให้ไทยเสียเกียรติ ด้าน ผบช.สอท. เผย กฎหมายไทยเอาผิดได้ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่นั้น ไม่อยากให้คาดการณ์

วันนี้ (20 มิ.ย. 68) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานพฤฒสภากัมพูชา กรณีคลิปเสียงสนทนากับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่หลุดออกมา

นายสมคิด เปิดเผยว่า ในฐานะประชาชนคนไทย และเป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง ซึ่งตนแยกไม่ออกว่ามาในฐานะอะไร แต่วันนี้มาแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาจากฝั่งของเขา ซึ่งเป็นการสนทนากับนายกฯ ไทยที่มีความยาวกว่า 17.6 วินาที จนสร้างคงามแตกแยกให้กับประชาชนประเทศไทย จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ซึ่งการแจ้งความครั้งนี้ไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือมีการหวังจะนำผลการแจ้งความไปใช้เป็นประโยชน์ในอนาคต โดยปัจจุบันตนเองยังไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ มีเพียงปรึกษากับคนใกล้ชิดเท่านั้น แต่มีข่าวออกไปแล้ว จึงไม่ทราบว่านายกทราบหรือยัง

สำหรับกรณีที่มีคลิปเสียงหลุด ตนมองว่าสมเด็จฮุน เซนได้ประโยชน์ สร้างความได้เปรียบทางการเมืองของตัวเอง โดยการเอาดี และเหยียบหัวคนอื่น ส่วนนายกฯ ไทยเป็นผู้ถูกกระทำ ทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่านายกฯ อ่อนข้อต่อกัมพูชา ซึ่งทำให้เสียเกียรติยศ และชื่อเสียงของประเทศไทย ผิดมารยาทการทูต อาณารยประเทศเขาไม่ทำกัน จึงต้องการใช้กฎหมายไทยในการดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ระบุว่า จากการสอบปากคำผู้กล่าวหาไปเบื้องต้น ยืนยันว่าในข้อกฎหมายสามารถเอาผิดได้ ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร รวมทั้งเป็นคนไทยหรือต่างชาติก็ตาม หากมีการทำลายความมั่นคงส่งผลกระทบในราชอาณาจักร ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ อย่างกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ทำความผิดอยู่ต่างประเทศ หรือยูทูบเบอร์กัมพูชา 2 ราย ที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ ก็สามารถดำเนินคดีได้

ส่วนขั้นตอนต่อไป ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และสืบค้นว่าแหล่งที่มาของต้นโพสต์อยู่ที่ใด และหากพบว่าอยู่ต่างประเทศก็สามารถหารือกับอัยการสูงสุด และประสานไปยังสถานทูตประเทศนั้นๆ เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ

สำหรับกรณีบุคคลที่ทำความผิดนั้นไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ส่วนจะได้ตัวหรือไม่นั้น ไม่อยากให้คาดการณ์ ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน แต่หากผู้ต้องหารายนั้นถูกออกหมายจับ จะต้องประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เฝ้าระวังกับบุคคลดังกล่าว หากพบว่าเดินทางเข้ามาไทยก็สามารถจับกุมได้ทันที

ส่วนกรณีมีคลิปเสียงคล้ายสมเด็จฮุน เซนคุยกับนายฮวด เผยแพร่ในลักษณะสั่งการให้นายฮวดประสานกับตำรวจไทยในการจับเป็นหรือตายกับบุคคลที่อยู่ในไทยที่เห็นต่างกับรัฐบาลของสมเด็จฮุนเซนนั้น ถือว่าเป็นการหยามเกียรติตำรวจไทยหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตำรวจไทยมีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถครอบงำได้ ซึ่งตำรวจจะจับใครก็ต้องจับกุมภายใต้กฎหมายไทย ไม่มีผู้ใดชี้นำได้ ส่วนที่มองว่ามีคดีค้างเก่าที่ สน.ชนะสงคราม เกี่ยวกับเรื่องภายในกัมพูชา โดยใช้ไทยเป็นพื้นที่ในการสังหาร แล้วผู้ต้องหากัมพูชาหลบหนีกลับไปยังประเทศ ขณะนี้ทราบว่าผู้ต้องหาถูกออกหมายจับไว้แล้ว อยู่ระหว่างกองการต่างประเทศใช้กลไกของเรื่องสนธิสัญญา ส่งผู้ร้ายข้ามแดน

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat