สภา กทม. ถก งบประมาณปี 66 วาระแรก 6-7 ก.ค.นี้
สภา กทม. ถก งบประมาณปี 66 วาระแรก 6-7 ก.ค.นี้ เร่งหารือฝ่ายกฎหมายเปิดร่างงบฯ ต่อประชาชน เพื่อความโปร่งใส
วันนี้ (20 มิ.ย.65) นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร รับมอบเอกสารงบประมาณ จากสำนักงบประมาณ กทม. และแถลงแนวทางการพิจารณางบประมาณปี 2566 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแเดง)
นายวิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้สำนักงบประมาณ กทม.นำเอกสารร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มาส่งมอบให้กับ กทม. เพื่อพิจารณาบรรจุในระเบียบวาระ ตามเงื่อนไขที่จะต้องส่งร่างข้อบัญญัติ ภายใน 90 วัน ก่อนจะสิ้นสุดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565
สภา กทม.จะมีกรอบพิจารณาหลังจากบรรจุเข้าระเบียบวาระ 45 วัน วาระที่ 1 จะเริ่มพิจารณาในวันที่ 6 ก.ค.65 และเปิดอภิปราย 2 วัน ระหว่างวันที่ 6-7 ก.ค.65 เมื่อที่ประชุมมีมติรับหลักการ คณะกรรมการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติ จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิสามัญ 2 คณะ ได้แก่ อนุกรรมการเขต กับ อนุกรรมการสำนัก เพื่อพิจารณาปรับลด ตัดทั้งยอด หรือผ่านตามร่างข้อบัญญัติ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระที่ 2-3 รายงานเข้าคณะกรรมการวิสามัญ และฝ่ายบริหารเสนอโครงการจำเป็นเร่งด่วนต่อสภา กทม. คาดว่าจะพิจารณาเสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 ส.ค.65
โดยวันที่ 6-7 ก.ค.65 ที่มีการอภิปรายจะมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับทราบด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี ทั้งนี้ยังได้หารือกับฝ่ายกฏหมาย เตรียมเปิดเผยร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ทุกหมวด ทุกรายการ ผ่านเว็บไซต์สภากรุงเทพมหานครด้วย
สำหรับงบประมาณปีนี้มีทั้งสิ้น 79,000 ล้านบาท เทียบเท่ากับงบปีก่อน การพิจารณางบประมาณครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ดีที่สุด เพราะสภา กทม.ไม่ได้แบ่งเป็นฝ่ายค้าน และฝ่ายบริหาร ทำให้ตรวจสอบได้อย่างอิสระ
นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า งบประมาณปี 2566 ไม่ได้ตั้งขึ้นโดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนปัจจุบัน แต่เป็นการตั้งงบประมาณตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนเก่า ซึ่งสภา กทม.ไม่ได้มีความกังวลใจอะไร เพราะสภา กทม.จะพิจารณาตามเหตุผล และวิธีพิจารณางบประมาณ
ส่วนกรณีที่นายชัชชาติ จะเสนอนโยบาย 216 ข้อในวาระที่ 2 และ 3 นั้น นายวิรัตน์ ระบุว่า เมื่อสภา กทม.มีการปรับลดงบประมาณแล้วก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร หากจะเสนอโครงการใหม่ก็จะต้องเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ฝ่ายบริหารจะต้องมีรายละเอียดชี้แจงต่อคณะกรรมการวิสามัญ
