POLITICS

‘สุวัจน์’ ชี้แจง กรณี ดีลจัดตั้งรัฐบาลล้ม ยืนยัน No problem

ย้ำ ยังเป็นมิตรสหายพูดคุยกันได้ตลอดเวลา พร้อมให้กำลังใจขอให้ตั้งรัฐบาลผ่านไปได้ด้วยดี ยัน หากมีอะไรที่พรรคชาติพัฒนากล้าจะช่วยเหลือประเทศได้ก็พร้อมช่วย

วันนี้ (20 พ.ค. 66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงข่าวต่อมวลชนกล่าวถึงกรณีการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า สืบเนื่องจากได้มีการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคที่ได้อันดับหนึ่ง คือพรรคก้าวไกล ซึ่งหลังจากการเลือกตั้ง พรรคชาติพัฒนากล้าก็มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเพียง 2 เสียง ฉะนั้นพรรคชาติพัฒนากล้าไม่ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลแต่อย่างใด

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่เริ่มมีการจัดตั้งรัฐบาล สถานะของการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนั้น ก็มีทั้งหมด 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง แต่ก็เข้าใจว่าเสียงในการที่จะลงมติเลือกนายกฯ ต้องมี 375 เสียง ซึ่งพรรคก้าวไกลก็ได้ติดต่อมาที่พรรคชาติพัฒนากล้า เพราะเราเคยพูดไปแล้วว่าไม่มีใครมาติดต่อเรา เราเป็นได้ทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล เพราะเรามีเพียงแค่ 2 เสียง แต่อยากเห็นการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเรียบร้อย และเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้

หลังจากที่พรรคก้าวไกลได้ติดต่อมาเชิญให้มาเข้าร่วมรัฐบาลเนื่องจากเสียงยังไม่เพียงพอ ซึ่งพรรคชาติพัฒนากล้าได้พิจารณาแล้ว และเราเคยได้พูดไว้ก่อนการเลือกตั้งว่า อยากเห็นการเมืองที่มีเสถียรภาพ เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และการยึดถือประเพณีว่าใครได้คะแนนพรรคอันดับ 1 จะได้เป็นคนเริ่มจัดตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ จากการพิจารณาก็เห็นได้ว่าครบกับองค์ประกอบที่ระบุไป เมื่อมีการเชิญเราก็ตอบรับคำเชิญ รวมทั้งการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่เหมือนทุกกับทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่เจรจาไม่มีการเซ็น MOU ซึ่งถือว่าเป็นมิติใหม่ในการจัดตั้งรัฐบาลที่กำหนดขอบเขตของรัฐบาลชุดใหม่ และเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาว่าจะให้ความเห็นว่าอย่างไร

ฉะนั้น เมื่อพรรคก้าวไกลเรียนเชิญก็เลยตอบรับเพราะตรงกับหลักการบนพื้นฐานที่ได้แจ้งไป และมีความปรารถนาว่าเป็นเรื่องที่มีเสถียรภาพ แต่เพียงแค่จาดเสียงเท่านั้น จึงถือเป็นหน้าที่ของพรรคชาติพัฒนากล้าที่จะต้องให้การสนับสนุนเพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ แต่ก็จะต้องมีการประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพราะพรรคเราจะต้องไปลงนามใน MOU ด้วย จึงได้นัดหมายให้ประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคในวันจันทร์นี้ เพื่อจะต้องไปพิจารณาว่ามีเงื่อนไขอะไรที่สอดคล้องกับนโยบายของพรรคหรือไม่

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า เมื่อพรรคก้าวไกลได้แถลงเรื่องของการยุติการเจรจาการเชิญเข้าร่วมรัฐบาล เราก็ยินยอมไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเราก็อยู่ระหว่างขั้นตอนของการพิจารณาตอบรับคำเชิญอย่างเป็นทางการ เพราะติดเรื่องการพิจารณารายละเอียดของการต้องไปเซ็น MOU ร่วมกับพรรคก้าวไกล

อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ได้ให้เกียรติมาเรียนเชิญพรรคชาติพัฒนากล้สในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งเราเองก็ให้การสนับสนุนในแนวทางนี้อยู่แล้ว ว่าพรรคที่ได้อันดับหนึ่งจะต้องเป็นพรรคที่ได้จัดตั้งรัฐบาลก่อน และได้เมื่อได้ ส.ส. เกินครึ่ง ให้มีเสถียรภาพ ถึงแม้ว่าเสียงจะไม่พอ แต่ก็ยังให้เกียรติพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะพรรคชาติพัฒนากล้าก็มีเพียง 2 เสียง จะให้ไแเป็นการเมืองที่ไปต่อรองอะไรกับพรรคใหญ่ก็คงจะไม่ได้ แต่เป็นการตัดสินใจเพื่อให้การเมืองสามารถเดินไปข้างหน้า และจัดตั้งรัฐบาลได้

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า การเรียนเชิญเราจะต้องมีการประชุมของพรรคว่าจะรับหลักการหรือไม่เกี่ยวกับ MOU แต่ขั้นตอนการประชุมก็จะคงไม่เกิดแล้ว เนื่อจากการยุติการเจรจา สำหรับพรรคชาติพัฒนากล้าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จุดนี้ “No Problem” และถือว่าเป็นมิตรสหายพูดคุยกันได้ตลอดเวลา

“เมื่อยุติการเจรจา ก็ยุติไม่ได้มีอะไร ไม่ได้รู้สึกน้อยใจหรือโกรธอะไร เพราะผมพูดอยู่เสมอว่าเป็นได้ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่มีปัญหา และขอยืมคำจาก พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ No Problem “ นายสุวัจน์กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีการยกมือสนับสนุนพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายสุวัจน์ ระบุว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน จะต้องมีการหารือกันในพรรค ซึ่งเราจะอยู่บนพื้นฐานของการมีเหตุผลพูดคุยกัน และไม่ได้เป็นศัตรูกับใครเป็นมิตรกับทุกฝ่าย ส่วนจะมีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกลใหม่หรือไม่ตอนนี้ตนยังไม่ทราบ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการพูดคุยกับพรรคก้าวไกลได้มีการพูดคุยกับ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เราก็ได้โทรคุยกับหัวหน้าพรรคว่ามีการเชิญจากพรรคก้าวไกล และอยากหัวหน้าพรรคก็จะเดินทางมาประชุมในเช้าวันจันทร์นี้ แต่ก็คงจะบอกไปว่าไม่ต้องมาแล้วก็ได้เพราะพรรคก้าวไกลยุติการเจรจาก็ไม่ต้องประชุมแล้ว ส่วนประเด็นในโลกออนไลน์ที่มีแฮชแท็กมีกรณ์ไม่มีเรา ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุย แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองเรายินดีที่จะสนับสนุนแต่บางเรื่องจะต้องมีการพูดคุยกัน และเราจะตัดสินใจด้วยความยินดี

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า อะไรที่ทำให้ประเทศชาติได้ก็จะทำ แต่เป็นเรื่องของคนที่จัดตั้งรัฐบาล ขอเอาใจช่วยให้ตั้งรัฐบาลผ่านไปได้อย่างเรียบร้อยเป็นกำลังใจให้ หากมีอะไรที่พรรคชาติพัฒนากล้าจะช่วยเหลือประเทศได้ก็จะช่วย

ในช่วงท้าย นายสุวัจน์ ระบุว่า บริบทจากนี้ไปของการเมืองที่ดูจากผลการเลือกตั้ง ค่อนข้างชี้ชัดว่าการเมืองหลังจากนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงกันบ้าง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ให้ประสบการณ์ใหม่กับทุกพรรคการเมือง ว่าวันนี้การที่จะชนะการเลือกตั้งอะไรคือคำตอบ

Related Posts

Send this to a friend