POLITICS

คลัง เปิดรายละเอียดมาตรการแก้หนี้ในระบบ ช่วยเหลือลูกหนี้ 4 กลุ่ม

กระทรวงการคลัง เปิดรายละเอียดมาตรการแก้หนี้ในระบบ ช่วยเหลือลูกหนี้ 4 กลุ่ม 10 มาตรการ

ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงรายละเอียดมาตรการแก้หนี้ในระบบ โดยกระทรวงการคลังมีแนวทางในการช่วยลูกหนี้ ซึ่งแบ่งลูกหนี้ในระบบออกเป็น 4 กลุ่ม และมีมาตรการเข้าแก้ปัญหา 10 มาตรการ โดยประชาชนสามารถติดต่อรับการช่วยเหลือ ดังนี้

กลุ่มที่ 1 ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จำนวน 2 มาตรการ ดังนี้

1.มาตรการช่วย ‘ลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ตามโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 หรือลูกหนี้ NPL รหัส 21’ โดยติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตามสมควร พร้อมช่วยเหลือลูกหนี้เพื่อให้ไม่เป็น NPLs หรือหมดภาระหนี้สินตามโครงการฯ ทั้งนี้ ให้ติดต่อธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส.

2.มาตรการพักหนี้ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ซึ่งจะช่วย ‘ลูกหนี้ SMEs ของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท และเป็น NPLs รหัส 21 ณ วันที่ 31 ธ.ค. 66’ โดยปรับโครงสร้างหนี้ให้ SMEs ผ่อนได้อย่างน้อย 3 เดือน และลูกหนี้จะได้รับการพักชำระต้นเงินไม่เกิน 1 ปี รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ทั้งนี้ ให้ติดต่อธนาคารออมสิน, ธ.ก.ส., ธอส., ธนาคารอิสลามฯ, SME Bank, EXIM และ บสย.

กลุ่มที่ 2 มีรายได้ประจำ แต่ภาระหนี้เกินกำลังจ่าย จำนวน 4 มาตรการ ดังนี้

1.โครงการสินเชื่อสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อแก้ไขหนี้บุคลากรภาครัฐ ซึ่งจะช่วย ‘ลูกหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ของส่วนราชการ’ โดยออมสินสนับสนุนสภาพคล่องให้สหกรณ์ที่ต้องการช่วยสมาชิก เพื่อเสริมสภาพคล่องและนำไป “ปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษกับลูกหนี้” และ “รีไฟแนนซ์หนี้รายย่อยจากออมสินไปรวมหนี้เป็นหนี้สหกรณ์” ทั้งนี้ ให้ติดต่อธนาคารออมสิน

2.โครงการสินเชื่อสวัสดิการข้าราชการและบุคลากรภาครัฐอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งจะช่วย ‘ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ’ โดยข้าราชการและบุคลากรภาครัฐสามารถขอสินเชื่อสวัสดิการ “อัตราดอกเบี้ยพิเศษ” ได้แก่ สินเชื่อเคหะ (ซื้อหรือต่อเติมซ่อมแซมที่อยู่อาศัย) สินเชื่อสวัสดิการ (สำหรับการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือชำระหนี้สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่น) และสินเชื่ออเนกประสงค์ ทั้งนี้ ให้ติดต่อธนาคารออมสิน

3.โครงการคลินิกแก้หนี้สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วย ‘ลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็นหนี้เสีย’ โดยเจ้าหนี้บัตรเครดิตรายใหญ่เกือบทั้งหมด จะนำเงินต้นคงค้างทำตารางผ่อนชำระใหม่ให้ยาวถึง 10 ปี และลดดอกเบี้ยจากร้อยละ 16-25 เหลือเพียงร้อยละ 3-5 ตามเงื่อนไข ทั้งนี้ ให้ติดต่อคลินิกแก้หนี้โดยบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM)

4.มาตรการช่วยเหลือให้มีรายได้คงเหลือเพียงพอดำรงชีพ ซึ่งจะช่วย ‘ข้าราชการ’ โดยผลักดันการตัดเงินเดือนเพื่อชำระหนี้ข้าราชการในสังกัด โดยต้องมีเงินเดือนคงเหลืออย่างน้อยร้อยละ 30 ให้พอต่อการดำรงชีพ ทั้งนี้ ให้ติดต่อส่วนราชการต้นสังกัด

กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอน จำนวน 3 มาตรการ ดังนี้

1.มาตรการพักหนี้ ‘เกษตรกร’ โดยพักหนี้เกษตรกร หนี้คงเหลือทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ทั้งนี้ ให้ติดต่อ ธ.ก.ส.

2.มาตรการช่วยเหลือ ‘ลูกหนี้เช่าซื้อและลูกหนี้ลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์’ โดยกระทรวงการคลัง ธปท. จะผลักดันให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ออกประกาศช่วยลูกหนี้เช่าซื้อ โดย “กำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ กำหนดเพดานดอกเบี้ยผิดนัด ลดดอกเบี้ยเมื่อนำเงินมาปิดบัญชี” ทั้งนี้ ให้ติดต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

3.มาตรการช่วยเหลือ ‘ลูกหนี้ กยศ.’ โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ กำหนดดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปี และเบี้ยปรับไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี ปรับลำดับการหักเงิน เป็นเงินต้น-ดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ ยกเลิกผู้ค้ำประกันการกู้ยืม ปรับเงื่อนไขสามารถชำระหนี้แบบรายเดือน รายไตรมาส หรือรายปีได้ ทั้งนี้ ให้ติดต่อ กยศ.

กลุ่มที่ 4 กลุ่มหนี้เสียเรื้อรัง จำนวน 1 มาตรการ คือ มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้โดยบริษัทร่วมทุนระหว่าง SFIs และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) งจะช่วย ‘ลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย’ โดยจัดตั้งกิจการร่วมทุนระหว่าง SFIs และ บบส. (JV AMC) โอนหนี้บางส่วนของ SFIs ไปยัง JV AMC โดยปรับโครงสร้างหนี้หรือตัดหนี้บางส่วนให้กับลูกหนี้ เพิ่มความคล่องตัวในการช่วยเหลือลูกหนี้ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้ ทั้งนี้ ให้ติดต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ

Related Posts

Send this to a friend