POLITICS

กรมการจัดหางาน ยัน แรงงานข้ามชาติ 7 แสน เข้าระบบทันเวลา

กรมการจัดหางาน ยัน แรงงานข้ามชาติ 7 แสน เข้าระบบทันเวลา จะไม่หลุดออกจากระบบการจ้างงานถูกกฎหมาย

วันนี้ (19 ธ.ค. 65) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จากการเสวนาเรื่องเช็กคะแนนกระทรวงแรงงาน เดินหน้า ย่ำอยู่กับที่ หรือถอยหลัง กับการจัดการปัญหาแรงงานข้ามชาติ หลังสถานการณ์โควิด ซึ่งมีการแสดงความกังวลถึงการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติของกรมการจัดหางาน ว่าจะทำให้มีแรงงานข้ามชาติจำนวนกว่า 700,000 แสนราย หลุดจากระบบการจ้างงานอย่างถูกกฎหมาย เนื่องจากข้อจำกัดของกฎหมายเรื่องการเปลี่ยนนายจ้าง ระบบขึ้นทะเบียนมีความซับซ้อน เปิดช่องแสวงหาประโยชน์ นั้น กรมการจัดหางานขอชี้แจงว่า

ประเด็นที่ 1 สาเหตุที่กระทรวงแรงงานเปิดให้ขึ้นทะเบียนและดึงแรงงานข้ามชาติเข้าสู่ระบบถึง 4 ครั้ง เนื่องจากสถานการณ์โควิดในช่วงที่ผ่านมา มีการปิดสถานประกอบการชั่วคราวแรงงานต่างด้าวจำนวนมากต่างทยอยเดินทางกลับบ้าน และส่วนหนึ่งไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาได้ อีกทั้งไม่สามารถเดินทางกลับประเทศเพื่อดำเนินการขออนุญาตเข้ามาทำงานในประเทศไทยตามขั้นตอนปกติ เพราะนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดระหว่างประเทศขณะนั้น

ต่อมาเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย รัฐบาลมีนโยบายเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ นายจ้าง สถานประกอบการกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งและมีความต้องการแรงงานข้ามชาติ กรมการจัดหางานจึงเปิดให้มีการนำแรงงานข้ามชาติเข้ามาทำงานกับนายจ้าง ตาม MOU และการนำเข้าแรงงานตามมาตรา64 พร้อมกับผ่อนผันกฎ ระเบียบ ข้อบังคับให้ยืดหยุ่นสอดคล้องตามสถานการณ์จริง โดยต่ออายุใบอนุญาตทำงาน และเปิดขึ้นทะเบียนใหม่ เพราะมุ่งหวังให้นายจ้าง สถานประกอบการ มีแรงงานในการขับเคลื่อนกิจการ และแรงงานข้ามชาติ สามารถปฏิบัติตามมติครม.ในคราวต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การจ้างแรงงานข้ามชาติอย่างถูกต้อง

ประเด็นที่ 2 การเปิดให้ยื่นบัญชีรายชื่อแรงงานข้ามชาติเพียง 15 วัน เพราะเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ หากกำหนดระยะเวลาการดำเนินการยาวเกินไป อาจเป็นการดึงดูดแรงงานข้ามชาติให้ลักลอบเข้าเมืองเพิ่มขึ้น และด้วยการขึ้นทะเบียนครั้งนี้เปิดขึ้นทะเบียนด้วยระบบออนไลน์ มีกลุ่มเป้าหมายคือ แรงงานข้ามชาติ 4 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ที่ทำงานอยู่กับนายจ้างก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ (วันที่ 5 กรกฎาคม 2565) เวลา 15 วันจึงถือว่าเพียงพอ

ประเด็นที่ 3 ระบบขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติผ่านระบบออนไลน์ที่ถูกกล่าวถึงว่ามีความซับซ้อน เปิดช่องแสวงหาประโยชน์ นั้น ไม่เป็นความจริง นายจ้าง-สถานประกอบการที่มีการจ้างแรงงานข้ามชาติจำนวนมาก ชื่นชอบการการขึ้นทะเบียนด้วยระบบออนไลน์ เพราะมีความสะดวก ลดการใช้เอกสารข้อเท็จจริง ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องเดินทางมาติดต่อ ณ สำนักงาน และในส่วนนายจ้างบุคคลธรรมดา ที่ไม่เชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยี กรมฯ มีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำ และพร้อมช่วยเหลือในการดำเนินการ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ และการอนุมัติคำขอจากส่วนกลางเพียงอย่างเดียว สามารถทำได้ทันเวลา เนื่องจากเป็นการอนุมัติผ่านระบบออนไลน์

ประเด็นที่ 4 แรงงานข้ามชาติกว่า 700,000 คน จะไม่หลุดออกจากระบบการจ้างงานถูกกฎหมาย เนื่องจากขณะนี้ทางการเมียนมาสามารถออกสารรับรองบุคคลให้แก่แรงงานแล้ว จำนวน 492,923 คน และยังเจรจาให้ประเทศต้นทางเพิ่มขีดความสามารถในการออกเอกสารให้แก่แรงงาน ทั้ง 4 ศูนย์ 3 รถโมบาย โดยเพิ่มการดำเนินการจากวันละ 850 คน/ศูนย์ เป็น 1,200 คน/ศูนย์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าแรงงานเมียนมาอีกประมาณ 200,000 คน จะได้รับเอกสารจนครบตามเป้าหมาย (700,000 คน) ภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566

“กรมการจัดหางาน ดำเนินการตามระเบียบ ขั้นตอน อย่างโปร่งใสภายใต้ความเห็นชอบจากมติคณะรัฐมนตรี โดยมีเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนนายจ้าง/สถานประกอบการ และภาคการผลิตให้สามารถจ้างแรงงานข้ามชาติ ซึ่งประสงค์จะทำงานให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเพื่อการทำงานต่อไปได้ ให้ภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศไทยขับเคลื่อนอย่างมีเสถียรภาพ และเร่งฟื้นฟูประเทศภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 คลี่คลาย ในมิติต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

Related Posts

Send this to a friend