‘ชาดา’ แจง ปราบผู้มีอิทธิพล 6 เดือน จะเริ่มเห็นผล
‘ชาดา’ แจง ปราบผู้มีอิทธิพล 6 เดือน จะเริ่มเห็นผล – เข้มข้นขึ้น ไม่ใช่จะลาออก มอง ปัญหาปราบผู้มีอิทธิพลเหมือน “ไฟไหม้ฟาง” ชี้ หากแก้ได้ภายใน 3 เดือน ก็อยากทำเลย พร้อม ใช้หลักอาชญาวิทยาในการปราบ ลั่น ประเทศนี้ไม่มีใครใหญ่กว่าตน ยกเว้น ‘เศรษฐา – อนุทิน’
วันนี้ (19 ก.ย. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณี การให้สัมภาษณ์เรื่องการปราบผู้มีอิทธิพล ระบุว่า ต้องใช้เวลา 6 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นผล ไม่ได้บอกว่าถ้าไม่ได้ผลใน 6 เดือน และตนเองจะลาออก เพราะงานการปราบปรามผู้มีอิทธิพลมีมานานแล้ว ซึ่งเป็นปัญหาไฟไหม้ฟาง ต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลตรวจสอบ และดูความเป็นธรรม ใครที่เลิกเป็นผู้มีอิทธิพลไปแล้ว ตนเองจะให้โล่ แต่ผิดอีกไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นจะมีการปรับเป็น 2 เท่า ใครดีเราต้องตอบแทน ใครเลวก็ต้องจัดการ
นายชาดา ยังกล่าวต่ออีกว่า ขอชี้แจงประเด็น 6 เดือน ว่าสื่อมวลชนเข้าใจผิด ขอแก้ไขว่า หากสามารถแก้ได้ภายใน 3 เดือน ก็อยากจะทำเลย แต่ระบบราชการเราต้องฟังหลายๆ ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงมา และนายอนุทิน ก็สั่งตนเองลงมาอีกทีหนึ่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีกรอบระยะเวลาอยู่แล้ว และชัดเจนมากในฐานะนักธุรกิจ เพราะระบบราชการต้องเจอแบบนี้ ซึ่งเป็นเรื่องดี และย้ำว่าตนเองไม่ได้แก้ตัว เพียงแต่ในระยะเวลา 6 เดือน นโยบายจะเริ่มเข้มข้นขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีการมอบโล่ให้ผู้ที่กลับใจไม่เป็นผู้อิทธิพลแล้วด้วยหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นหลักอาชญาวิทยาว่าการจะแก้ปัญหาต้องมีการให้รางวัล และมีการปราบปรามไปพร้อมกัน โดยเราจะนำทุกทฤษฎีมาใช้เพื่อไม่ให้ปัญหาผู้มีอิทธิพลจบสิ้นสักที
ส่วนเรื่องการรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพลเรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ตอนนี้แต่ละภาคส่วนก็นำรายชื่อส่งมาเรียบร้อยแล้ว แต่ต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่า มีความรู้สึกหนักใจในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลหรือไม่ นายชากล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องหนักใจ ตนเองต่อสู้ฟันฝ่าชีวิตมาตั้งแต่เด็ก วันนี้มีโอกาสทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ก็ทำอย่างเต็มที่ ไม่มีใครใหญ่กว่าตนเองในประเทศนี้ ยกเว้นนายเศรษฐา และนายอนุทิน
