‘นพ.ชลน่าน’ ยัน ยึดตาม MOU 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่เวลาหาเสียงเพิ่มพรรคที่ 9-10
วันนี้ (19 ก.ค. 66) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จังหวัดน่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล 8 พรรคร่วมคุยกันชัดเจนว่าไม่ใช่การเสนอญัตติซ้ำ เพราะไม่ใช่ญัตติตามข้อบังคับ 41 สามารถเสนอใหม่ได้ และคิดว่าจะได้คะแนนมากกว่า 10% คือประมาณ 350-360 ขึ้น
เมื่อถามว่ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องการถือหุ้นสื่อของนายพิธาในวันนี้มีความกังวล หรือได้นำมาพูดคุยกันในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า มี สส. จำนวนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยสอบถามเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งได้ตอบไปว่าในกรณีที่ศาลพิจารณาเพียงแค่รับคำร้อง และยังคงมีคุณสมบัติในการได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมได้ และยังสามารถให้ความเห็นชอบได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ สว. มีความมั่นใจว่าจะไม่มีการโหวตในวันนี้อย่างแน่นอน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของ สว. ที่จะมองแบบนั้น ถ้าประธานรัฐสภาให้ญัตติเข้ามาก็เป็นไปตามนั้น ถ้าเสียงข้างมากมองว่าเป็นญัตติซ้ำ ญัตติที่เสนอวันนี้ก็ไม่มีการโหวต และวันนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่มีแผนที่จะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย
นพ.ชลน่าน ย้ำว่า การที่จะหาพรรค ที่ 9 กับพรรคที่ 10 เป็นเพียงความเห็นที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไปหลังถูกถามว่าเมื่อได้เป็นพรรคแกนตั้งรัฐบาลจะยึดหลักเอ็มโอยูหรือไม่ ตนเองตอบไปว่า บางข้ออยู่ในเอ็มโอยู บางข้อไม่อยู่ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่อะไรก็เป็นก้าวไกลหมด แต่ตอนนี้ก้าวไกลยังเป็นพรรคอันดับ 1
ส่วนหากจะเพิ่มพรรคที่ 9 ที่ 10 จำเป็นต้องเพิ่มเสียง สว. เข้ามาด้วยหรือไม่นั้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สมมุติฐานควรจะเป็นอย่างนั้น และไม่ขอตอบว่า จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลข้ามขั้วหรือไม่ ขอให้ข้อเท็จจริงวันนี้ปรากฏก่อน รวมถึง ถ้อยแถลงของ 8 พรรคร่วมถึงจะบอกว่ามีโอกาสหรือไม่ และเหตุการณ์วันนี้ยังไม่จบ จึงไม่มีคำว่าถ้า
