POLITICS

โฆษก ทอ.เผย พบเครื่องบินเจ็ตจอดซ่อมบำรุงที่ท่าอากาศยานหัวหิน

โฆษก ทอ.เผย พบเครื่องบินเจ็ตจอดซ่อมบำรุงที่ท่าอากาศยานหัวหิน ไม่ได้บินออกนอกประเทศ

พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยกรณีที่ปรากฏข่าวว่า กลุ่มทุนจีนใช้เครื่องบินพลเรือนบินขึ้นจากสนามบินดอนเมือง หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า กองทัพอากาศได้ประสานหน่วยเกี่ยวข้องเกี่ยวกับขั้นตอนการทำแผนการบินของอากาศยานพลเรือน ซึ่งนักบินจะเป็นผู้ส่งแผนการบินโดยตรงให้กับหอบังคับการบิน และแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ

ทั้งนี้พบว่า เครื่องบินลำดังกล่าวส่งแผนการบินไปยังสนามบินบ่อฝ้ายเพื่อซ่อมบำรุง วิ่งขึ้นจากสนามบินดอนเมือง เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ต.ค. 65 เวลา 09.00 น. โดยไม่มีผู้โดยสารไปด้วย มีปลายทางตามแผนการบินลงสนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยขณะนี้ เครื่องบินลำดังกล่าวยังคงจอดซ่อมบำรุงอยู่ที่โรงเก็บอากาศยาน ท่าอากาศยานหัวหิน มิได้ทำการบินต่อไปส่งผู้ถูกกล่าวหา เพื่อช่วยเหลือให้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศพร้อมให้การสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด กองทัพอากาศขอยืนยันว่า จะยึดมั่นตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะไม่มีการปกป้องผู้ที่กระทำผิดกฎหมายเป็นอันขาด

วานนี้ (17 พ.ย. 65) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำหลักฐานยื่นต่อ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบกลุ่มคนที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มธุรกิจสีเทาของนายทุนจีน

สำหรับหลักฐานดังกล่าว มีการเปิดเผยบางส่วนต่อสื่อมวลชน คือภาพถ่ายเครื่องบินเจ็ต จอดอยู่ภายในศูนย์ฝึกการบินพลเรือนแห่งหนึ่ง เดิมท้ายเครื่องมีข้อความ “HS-PSL” ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคำว่า “HS-HAO” ซึ่งเป็นชื่อของ “นายตู้ห่าว” หนึ่งในผู้ต้องหากลุ่มนายทุนจีนที่ประกอบธุรกิจสีเทา

นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ทราบ พบว่านายตู้ห่าวได้ซื้อเครื่องบินเจ็ตลำดังกล่าวมาจากนักการเมืองคนหนึ่ง ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับการช่วยเหลือให้พาไปขึ้นเครื่องลำนี้หลบหนีออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา

“ปกติแล้ว เครื่องบินส่วนใหญ่จะได้รับการอนุญาตให้จอดอยู่ใน 2 สถานที่ แต่เครื่องบินลำนี้กลับนำไปจอดในศูนย์ฝึกการบินพลเรือน ที่ดาราและกลุ่มผู้มีฐานะทางการเงินมักจะใช้เป็นสถานที่ฝึกบิน ซึ่งที่นี่ ผู้ได้รับอนุญาตจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น แต่จากข้อมูลไม่ปรากฏมีชื่อของนายตู้ห่าวเป็นสมาชิก และยังไม่ปรากฏเส้นทางการบินของเครื่องบินลำนี้อยู่ในตารางการบินใดๆ หายไปราวกับล่องหนได้ จึงเชื่อได้ว่าการหลบหนีออกนอกประเทศของนายตู้ห่าว ต้องมีผู้มีอิทธิพลให้การช่วยเหลือ” นายชูวิทย์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend