POLITICS

‘ณัฏฐ์ชนน’ ข้องใจงบ 68 กระทรวงภูมิใจไทยถูกตัด งบมหาดไทยหาย 5 หมื่นล้าน

‘ณัฏฐ์ชนน’ ข้องใจงบ 68 กระทรวงภูมิใจไทยถูกตัด งบมหาดไทยหาย 5 หมื่นล้าน ปลอบ ‘อนุทิน’ ขออย่าน้อยใจ นายกฯ ดูอยู่ ท่านคงไม่ใจดำตัดงบ 69

วันนี้ (19 มิ.ย. 67) นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ลุกอภิปรายว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 โดยมีคำถามว่าหากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ผ่านการพิจารณาของสภา ใครจะรับผิดชอบ 1. นายกฯ ต้องพ้นจากตำแหน่ง 2. นายกฯ ไม่ชนะประกาศยุบสภา สส. ครม. ต้องพ้นจากตำแหน่ง 3.หน่วยงานต่าง ๆ ไม่มีงบใช้จ่ายปี 68 4. เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้

อยากถาม ผอ.สำนักงบประมาณจะรับผิดชอบอะไรบ้าง ตำแหน่งเลขากรรมาธิการงบประมาณ ไม่กล้าเป็นเลขา เพราะกลัวติดคุก นี่คือสิ่งที่ตนเองคาใจทุกครั้งในการอภิปราย ตกลงใครมีอำนาจ สภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือสำนักงบประมาณ งบปี 68 รัฐบาลเศรษฐา ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ไม่เหมือนงบประมาณปี 67 ที่มาจากรัฐบาลชุดเก่า งบประมาณปี 68 ให้ความสำคัญกับนโยบายของรัฐบาล 142 ประเด็น คำนึงถึงวิสัยทัศน์ประเทศไทย 8 ศูนย์กลาง 6 ฐานราก ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ว่าด้วยความมั่นคงและแผนปฎิบัติราชการของกระทรวง จะมีกรอบต่างๆ มากมายตัวกำหนดในเรื่องของงบงบประมาณ ไม่ใช่นายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี จะสามารถจัดสรรงบงบประมาณได้ตามใจชอบ

ทั้งนี้งบประมาณปี 68 2,704,574 ล้านบาท เหลือไม่ถึง 1,000 ล้านบาท 908,224 ล้านบาท ต้องไปชำระเงินกู้ 150,100 ล้านบาท ดูตัวเลขแล้วรู้สึกเสียวไส้ งบประมาณรายได้รายจ่ายแบบนี้ถ้าเป็นบริษัทเอกชนเจ๊ง เพราะงบไม่สมดุลย์ต้องกู้เพิ่มอีก 865,700 ล้านบาท เพื่อมาปิดรูรั่ว นายกฯ ครม. สส. สว. กรรมาธิการ ประชาชนถามว่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณประจำปีแก้ไขเพิ่มเติมแปรญัตติได้หรือไม่ รัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 144 กำหนดชัดเจนห้ามแปลญัตติหรือกระทำการใด ๆ มีการตั้งข้อสังเกต 2 ประเด็น 1.กระทรวงใหญ่ได้รับงบประมาณมาก แต่ส่งกำไรคืนน้อย แต่ก็กระทรวงเล็ก ๆ และหน่วยงานเล็ก ๆ ของรัฐบาล ได้รับงบประมาณน้อยนิดแต่ส่งรายได้คืนคลังมาก 2.งบรัฐพาณิชย์คือ หน่วยงานที่กระทรวงการคลังไปมีหุ้นส่วนด้วย หรือกระทรวงการคลังไปถือหุ้น ปรากฏว่ามีรายได้ 167,500 ล้านบาท ที่ได้จากกองสลาก 50,000 ล้านบาท ส่วนงบรายได้อื่น ๆ เข้ารัฐทั้งหมด

พน้อมฝากถึงนายกฯ ว่าตนเองมาจากต่างจังหวัด นายกฯ อย่าลืมรากหญ้า อย่าลืมพื้นฐานของประเทศ คือ ภาคเกษตรกร จำนวน 25 ล้านคน 40% นี่คือแหล่งรองรับตลาดแรงงานในภาคเกษตรให้กับรัฐบาล การดูแลสินค้าเกษตรให้เลยต้นทุน ไม่ว่าข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา ปาล์ม ทุเรียน และผลไม้อื่น ๆ ให้เกษตรกรมีกำไร ดังนั้นรัฐบาลต้องทำให้ภาคการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น

โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลคือการฟื้นภาวะเศรษฐกิจ งบประมาณประจำปีคือหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นเครื่องมือของรัฐบาล ตัวอย่างภาคใต้บ้านตน สร้างรายได้ให้กับประเทศ ที่ตอนนี้เจ๊งหมด ยางพารา 3 โล 100 ที่ทำให้ความมั่นคงของคนภาคใต้หายไป วันไหนตกต่ำรัฐบาลเดือดร้อน วันไหนมีกำไรรัฐบาลได้รายได้เพิ่ม และโครงการแลนด์บริจในภาคใต้ จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจหลักให้กับประเทศและรัฐบาล

ตนเองขอพาดพิงไปยังกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทยเงินหายไป 50,000 ล้านบาท มท.1 ไม่โวยวาย เพราะเข้าใจงบดุลของประเทศลดลง มีกฎหมายกระจายอำนาจกระจาย หน่วยงานท้องถิ่นสามารถขอตรงกับสำนักงบประมาณได้ แต่ภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าปัญหายาเสพติด สถานบันเทิง การแก้หนี้ การทำตามนโยบายของรัฐบาล และดำริของนายกรัฐมนตรี นายกฯ คงพิจารณางบสนับสนุนภารกิจของกระทรวงมหาดไทยตามความเหมาะสม ตนเองไม่รู้จะช่วยยังไงกับหัวหน้าพรรค ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน “อย่าน้อยใจครับหัวหน้า ท่านนายกฯ ดูอยู่ ท่านคงไม่ใจดำจัดสรรงบกลางให้กับมหาดไทยในอนาคต” ส่วนกระทรวง อว. ได้งบประมาณ 132,000 ล้านบาท มีคนมาร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โครงการสำคัญโดนตัดงบประมาณจาก ครม. ก่อนที่จะเข้าสู่สภา ส่วนของกระทรวงแรงงาน งบปี 68 67,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,600 ล้านบาท รมว.แรงงาน ต้องการให้หลุดพ้นจากคำว่าแรงงานขั้นต่ำ สิ่งที่กระทรวงดำเนินการคือการเพิ่มทักษะให้กับแรงงาน

สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ งบปี 68 340,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,000 ล้านบาท ปัญหาสังคมไทยซับซ้อนหลายมิติ หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ พรรคภูมิใจไทยมองว่าการปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาในหลายยุคหลายสมัยยังไม่คืบหน้า ไม่ตอบโจทย์ ผลของการปฏิรูปการศึกษาต้องแก้ปัญหาในทุกมิติมากกว่านี้ ปัญหาการศึกษาของไทยคือ ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ขาดแคนครูที่มีคุณภาพและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง หลักสูตรเน้นท่องจำมากกว่าคิดวิเคราะห์ หลักสูตรการศึกษาไม่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่สูงสร้างหนี้ให้กับผู้ปกครอง โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจนความรู้ไม่ทันสมัย เด็กจบไม่ตรงกับสายงาน โอกาสจบการศึกษาก่อนเวลามีน้อย พรรคภูมิใจไทยมีความเห็นและมีมติให้แก้ปัญหาการศึกษาของประเทศและปัญหาอื่น ๆ เรียกว่านโยบายปฏิวัติการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาประเทศ เพราะฉะนั้นฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรี ให้การสนับสนุนนโยบายปฏิวัติการศึกษาในปีงบประมาณปี 69 ทั้งนี้ งบประมาณปี 68 3,752,700 ล้านบาท ตนสนับสนุนให้ผ่านในวาระที่หนึ่ง หวังว่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชน

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat