คุณหญิงสุดารัตน์ ควง ศิธา ลุยซอยละลายทรัพย์ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ฝ่ายประชาธิปไตย
วันนี้ (19 พ.ค.66) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม เพื่อฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนและสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่ผลักดัน
โดยตลอดการลงพื้นที่มีประชาชนและพ่อค้าแม่ค้ามาต่อคิวถ่ายรูป น.ต.ศิธา เป็นจำนวนมาก ทำให้บางช่วงมีคนหนาแน่น ทีมงานจึงต้องแจ้งเป็นระยะว่าขออภัยในความไม่สะดวก โดยช่วงหนึ่ง น.ต.ศิธา ได้กล่าวว่า “วันนี้มาขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ฝ่ายประชาธิปไตย”
คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า วันนี้มาขอบคุณทุกคะแนนเสียงทั้งที่เลือกและไม่เลือกพรรคไทยสร้างไทย แต่เราต้องการมาแสดงเจตนารมย์ช่วยทำงาน จึงลงมาฟังปัญหาของผู้ประกอบการที่ซอยละลายทรัพย์ ปัญหาเศรษฐกิจต้องเร่งแก้ไข เรื่องด้วยเสถียรภาพของรัฐบาลมีผลต่อความเชื่อมั่นต่อสภาพเศรษฐกิจ โดยเมื่อวานนี้หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของ World Economic Forum ได้มาพูดคุยกับพรรคไทยสร้างไทย เพื่อหาแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด
ส่วน MOU จัดตั้งรัฐบาล พรรคไทยสร้างไทยมอบหมายให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรค ดำเนินการ โดยจะมีการเรียกประชุมภายในวันพรุ่งนี้ เพื่อเพิ่มเติมนโยบายเศรษฐกิจ และนโยบายที่ดูแลคนตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่น บำนาญประชาชน อีกทั้งจุดยืนที่จะขจัดความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
น.ต.ศิธา กล่าวต่อว่า ใน MOU มีสรุป 8 ข้อ พรรคไทยสร้างไทยไม่ได้ติดขัดอะไร ส่วนใหญ่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน เช่น การขึ้นค่าแรง และการสมรสเท่าเทียม ส่วนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้บรรจุไว้ เนื่องด้วย MOU คือกฎหมายที่ทุกพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการผลักดัน โดยไม่มีใครคัดค้าน ข้อกังวลเรื่องมาตรา 112 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล มาตรา 112 เกี่ยวข้องกับฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหาร เป็นเรื่องที่เขาไม่ได้เน้นว่าต้องเห็นพ้องต้องกัน หากไม่มีใครหยิบยกประเด็นนี้มา พรรคไทยสร้างไทยจะไม่แตะต้อง แต่ถ้าหยิบยกมา ปัญหาเรื่องของการข้อบังคับใช้ที่ต้องใช้วิจารณญาณ เช่น การดูหมิ่น หมิ่นประมาท และอาฆาตมาดร้าย อาจจะต้องพิจารณาให้ละเอียดขึ้น
ส่วนจะแก้หรือไม่แก้ แก้อย่างไรเป็นเรื่องของสภาฯ พรรคไทยสร้างไทยระบุไว้ในนโยบายชัดเจนหากยกเลิกมาตรา 112 “ไม่เอาเด็ดขาด” และเราจะเป็นคนต่อต้าน หากแก้ไขแล้วทำให้สถาบันอ่อนแอลง ถูกวิพากษ์วิจารณ์จนเกิดความเสื่อมเสีย เราก็ไม่สนับสนุน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ก่อนถึงวันลงนาม MOU ในวันที่ 22 พ.ค.66 ยังมีหลายนโยบายที่จะต้องเพิ่มไป โดยเฉพาะการ Empower และ Liberate ให้ประชาชน เช่น การแขวนและพักใช้ใบอนุญาต 1,400 ฉบับ บำนาญประชาชน 3,000 บาท
ส่วนโผคณะรัฐมตรีที่สื่อมวลชนมีการเปิดเผยว่า คุณหญิงสุดารัตน์ ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อาจจะกลับมานั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ยืนยันว่ายังไม่ได้คุยกัน เราจะเริ่มต้นคุยเรื่องนโยบายก่อน ไม่ทราบว่าพรรคก้าวไกลคุยกับพรรคอื่นหรือยัง แต่กับพรรคไทยสร้างไทยยังไม่ได้คุย ส่วนจะมีข้อเสนอแนะต่อกรณีที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล อาจจะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่ ขอให้มีความชัดเจนก่อน เพราะตอนนี้เป็นการคาดเดา