POLITICS

‘แพทองธาร‘ หารือทวิภาคีเต็มคณะร่วมกับ ’ฮุน เซน‘ พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองการเมือง

’แพทองธาร‘ รำลึกถึงผู้จากไปในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กัมพูชา ก่อนประชุมร่วม CPP แลกเปลี่ยนมุมมองการเมือง ‘ฮุน เซน’ แนะ พรรคการเมืองจะประสบความสำเร็จได้ ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ย้ำ สันติภาพชายแดนช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ

วันนี้ (19 มี.ค. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะฯ ได้ร่วมรำลึกถึงผู้จากไปในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ณ อนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชา อีกหนึ่งประวัติศาสตร์บาดแผลที่ต้องไม่ลืม โดยก่อนเดินทางกลับ นายฮุนมานี และคณะรัฐมนตรี ยังได้เลี้ยงอาหารกลางวันรับรอง นางสาวแพทองธาร และคณะฯ พร้อมหารือถึงกรอบความร่วมมือระหว่างพรรค และ ส.ส. โดยเฉพาะ 7 จังหวัดตามเขตแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพิ่มเติมอีกด้วย

ต่อมานายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมสรุปหลังการหารือทวิภาคีเต็มคณะร่วมกับ ฯพณฯ ฮุน เซน ประธานพรรค และคณะพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) เย็นวานนี้ (18 มีนาคม 2567) ว่า

1.ฯพณฯ ฮุน เซน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้คำแนะนำถึงการทำพรรคการเมือง และการทำประโยชน์เพื่อประชาชน รวมถึงเปิดโอกาสและพัฒนาศักภาพคนรุ่นใหม่ร่วมกันของทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่ง ฯพณฯ ฮุน เซน ยกตัวอย่างให้เห็นถึงคณะรัฐมนตรีปัจจุบันที่มีสัดส่วนของคนรุ่นใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ ฯพณฯ ฮุน เซน ยังเน้นการทำงานด้านการสร้างเครือข่ายสมาชิกพรรคการเมือง เพราะเชื่อว่าประชาชนจะเป็นรากฐานสำคัญในการทำงานทางความคิดของพรรค โดยกล่าวว่าปัจจุบันพรรคประชาชนกัมพูชามีสมาชิกกว่า 7.2 ล้านคนหรือเกือบครึ่งประเทศ

2.ฯพณฯ ฮุน เซน ยังได้รับทราบและเห็นด้วยในหลักการถึงการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลไทยที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้ริเริ่ม โครงการ “6 Countries 1 Destination” ในเวที ASEAN Summit และเสนอให้นำร่องการเข้าประเทศกลุ่มอาเซียนด้วยวีซ่าเดียวระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อนอีกด้วย นโยบายนี้จะช่วยสนับสนุน ‘การท่องเที่ยวแบบเชื่อมต่อกัน’ (Seemless Tourism) อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายซอฟต์ พาวเวอร์ ที่เน้นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเป็นการต่อยอดการสร้างมูลค่าการท่องเที่ยวระหว่างกันอีกด้วย

3.พรรคเพื่อไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้งทีมทำงานระดับพรรคการเมืองต่อพรรคการเมือง เพื่อให้ สส.ในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่ติดกับแนวชายแดน หารือร่วมกันถึงแนวทางการพัฒนาการค้าชายแดนที่มีแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาติดกันถึง 7 จังหวัด ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนพื้นที่ที่เคยเป็นสนามรบ ที่ยังคงมีกับระเบิดสมัยสงครามหลงเหลืออยู่ เป็นสนามการค้า เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา 525,000 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2568

ซึ่งการหารือถึงความร่วมมือที่จะพัฒนาศักยภาพ ส.ส. ของทั้ง 2 พรรคการเมืองนี้ มีโจทย์หลักคือการทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ให้นำไปสู่การสร้างสันติภาพและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน

Related Posts

Send this to a friend