POLITICS

‘ประเสริฐ’ เดินหน้ายกระดับความสามารถ เพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัล

‘ประเสริฐ’ เดินหน้าขับเคลื่อน 3 เครื่องยนต์ ยกระดับความสามารถ – เพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัล

วันนี้ (19 ม.ค. 67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานงานประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ Blockchain to Government Conference (B2GC): Where Government Meets with Blockchain’s World Leaders ที่จัดโดยกระทรวงดีอี โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (DGA) บริษัท ฟินสเตเบิ้ล โฮลดิ้ง จำกัด และเครือข่ายพันธมิตร พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ The Growth Engine of Thailand

นายประเสริฐ กล่าวว่า นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของกระทรวงดีอีในชื่อ The Growth Engine of Thailand ประกอบด้วย 3 เครื่องยนต์สำคัญ ได้แก่

1.การเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness)

2.การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security)

3.การเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ (Human Capital)

สำหรับเครื่องยนต์ที่ 1 กระทรวงดีอี เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างโอกาสจากโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศอย่างจริงจัง โดยจะเร่งพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G พร้อมทั้งสร้างโอกาสความร่วมมือในการลงทุนและการค้าผ่านโครงข่ายการสื่อสารระหว่างประเทศสู่ระดับนานาชาติ เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระบบเครือข่ายเคเบิลใต้น้ำ ขยายโอกาสผ่านเส้นทาง One-belt และ China Plus One เร่งรัดและแก้ไขปัญหาการค้าออนไลน์และ E-commerce ลดความยุ่งยากในการใช้ National Digital ID เร่งรัดให้เกิดแผนแม่บทการส่งเสริมการพัฒนา AI เป็นต้น

เครื่องยนต์ที่ 2 ต้องเร่งรัดการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์อย่างเร่งด่วน โดยจะประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบและจับกุมบัญชีม้า เว็บพนันออนไลน์ มิจฉาชีพ Call Center และจะเพิ่มประสิทธิภาพการอายัดบัญชีให้ทันท่วงที ควบคู่กับป้องกันการจู่โจมทางไซเบอร์จากต่างประเทศ ผ่านแผนงานการสร้างศูนย์เตือนภัยไซเบอร์ ยกระดับศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ส่งเสริมระบบคลาวด์กลางภาครัฐ อีกทั้ง Blockchain จะช่วยตรวจสอบยืนยันตัวตน การบันทึก หรือติดตามธุรกรรมทางการเงิน ป้องกันการแอบอ้าง ปลอมแปลง เพิ่มความโปร่งใส

เครื่องยนต์ที่ 3 กระทรวงดีอีจะให้ความสำคัญกับการผลิตเมล็ดพันธุ์ดิจิทัล สร้างรากฐานอนาคตผ่านการสร้างโรงเรียนโค้ดดิ้งสำหรับเด็กไทยทุกคน (Coding Thailand) และการสร้างห้องเรียนทางเลือกให้เด็กมีสิทธิเลือกเรียนวิชาชีพอนาคต สร้างเด็กอาชีวะดิจิทัล รวมถึงสร้างแรงงานไทยให้มีทักษะด้านดิจิทัล โดยการสร้างห้องเรียนฟรีสำหรับวัยทำงาน จัดให้มีห้องเรียนเปิดด้านดิจิทัลฟรี 24 ชั่วโมง

นายประเสริฐ กล่าวว่า เรายังมุ่งเพิ่มกำลังคนดิจิทัลในสาขาขาดแคลน โดยพัฒนาระบบการศึกษาด้านดิจิทัลรูปแบบเปิด (Open Digital University) พัฒนาระบบการเรียนบนโลกดิจิทัล พัฒนาบุคลากรดิจิทัลโดยส่งเสริมภาคอาชีวศึกษาเพื่อให้จบไปมีงานทำ พร้อมดึงดูดคนในสาขาที่ขาดแคลนโดยให้มี Global Digital Talent Visa สำหรับเด็กที่จบในมหาวิทยาลัย Top 600 ระดับโลก มีโอกาสท่องเที่ยวและทำงานกับบริษัทไทย และสร้างโอกาสด้านดิจิทัลผ่านแผนงาน Digital for ALL หรือการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับผู้สูงวัยและผู้พิการ

“เครื่องยนต์ที่ 3 ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มศักยภาพนักพัฒนาโปรแกรม (Programmer) ของไทยให้ขยายตลาดสู่อุตสาหกรรมดิจิทัลในอนาคต เช่น Web3 ร่วมกับภาคการศึกษาและพันธมิตรระดับสากลที่มาร่วมงาน ผมดีใจที่ได้เห็นความร่วมมือจาก Blockchain Protocol ระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ที่สนใจเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ในฐานะ ตัวแทนภาครัฐ ประเทศไทยพร้อมจะเป็นเวทีกลางในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่อยู่บนโครงสร้างพื้นฐาน Blockchain ในภูมิภาค โดยจะผลักดัน ecosystem และกลไกภาครัฐดังที่กล่าวมาให้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าว

Related Posts

Send this to a friend