‘ชวน’ ชี้การยุบสภาไม่ใช่ทางแก้ปัญหาสภาล่ม วอน ส.ส. ใช้เวลาที่เหลืออยู่ดัน กม. และงานสภาให้ผ่าน

วันนี้ (19 ม.ค. 66) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังการประชุมวิปสองฝ่าย ว่าเวลาที่เหลืออยู่ของสภาเป็นสิ่งมีค่า แม้จะดูสั้นเมื่อเทียบกับระยะเวลา 4 ปี แต่ยังสามารถพิจารณาเรื่องต่างๆได้มาก ทั้งเรื่องเพื่อทราบ เรื่องที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งบางชุดเสียงบประมาณเป็นล้านในการทำงาน และใช้เวลาศึกษากันมาเป็นปี หากไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาก็จะเป็นเรื่องที่เสียโอกาส และเสียเวลา ดังนั้นจึงตั้งใจจะให้ผ่านสภาไปให้ได้ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ และเห็นว่าข้อเสนอของ ส.ส.บางคนที่เสนอให้ยุบสภา เพราะมีปัญหาสภาล่มนั้น เห็นว่าการเสนอยุบสภาไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาแต่เป็นข้อเสนอตัดความรำคาญเฉพาะหน้า ซึ่งเท่าที่สังเกตจากที่นั่งเป็นประธานการประชุมจะเห็นว่า เวลาเช็คองค์ประชุมจะใช้เวลานานแต่พอถึงเวลาลงมติเสียงจะมากกว่า ซึ่งแสดงว่ามีผู้ไม่แสดงตนแต่พอเห็นว่าองค์ประชุมครบก็ลงมติ จึงขอร้องส.ส. ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอย่าใช้วิธีการหนีปัญหา แต่ควรอยู่ร่วมกันทำงานโดยเฉพาะการพิจารณาร่างกฎหมายที่เห็นพ้องเลื่อนขึ้นมา และเชื่อว่าหากครบองค์ประชุมก็สามารถพิจารณาเสร็จได้
“ผมก็หวังและขอความร่วมมือด้วยตัวเองและบอกว่าอย่าใช้วิธีหนีปัญหา และต้องใช้วิธีสู้ปัญหา เชื่อว่าสามารถทำได้ และหวังว่าคำขอร้องวันนี้ทุกคนน่าจะ ร่วมมือให้องค์ประชุมดีขึ้น” นายชวน กล่าว
ส่วนเมื่อกฎหมายผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว หมดสมัยประชุม ทางวุฒิสภาจะขอให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่าทางสภาสามารถขอไปได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลว่าจะยอมให้เปิดหรือไม่ และโดยปกติแล้วการขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญมักจะเป็นเรื่องด่วนและสำคัญที่จะขอเปิด 3 วันหรือ 5 วัน ซึ่งกฎหมายหลายฉบับแม้จะผ่านสภาไปแล้วอาจจะไม่ทันวุฒิสภา แต่ต้องไม่ลืมว่าสภาชุดนี้หมดวาระในวันที่ 23 มีนาคม จึงถือว่ายังอยู่ในวาระของสภาอยู่ สมาชิกก็ยังมีสมาชิกภาพและยังทำงานได้อยู่ ดังนั้นต้องแล้วแต่ทางรัฐบาล
สำหรับวันเวลาในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นั้น นายชวนกล่าวว่าจะต้องมีการหารือกันในวันที่ 25 มกราคมนี้โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เพราะกรณีนี้มีการยื่นญัตติมาตั้งแต่เดือนธันวาคม และเดิมคาดหมายว่าจะอภิปรายตั้งแต่กลางมกราคม หรือปลายมกราคม แต่ทางรัฐบาลบอกว่าสะดวกหลังวันที่ 15 ก.พ. เนื่องจากมีรัฐมนตรีบางคนไปต่างประเทศ
ด้านนายอนุชา นาคาศัย กล่าวว่าต้องยอมรับว่ามีรัฐมนตรีบางคนติดขัด ไม่สะดวกที่จะให้อภิปรายก่อน และเห็นว่าการจะให้อภิปรายต้นเดือนหรือกลางเดือนก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก เพราะหากรัฐมนตรีไม่อยู่ก็ไม่สามารถที่จะชี้แจงได้