POLITICS

‘ณัฐพงษ์’ ชี้ ต้องดูเสียงลงมติพิสูจน์ ‘ภูมิใจไทย’ ละเมิด MOA หรือไม่

‘ณัฐพงษ์’ ชี้ ต้องดูเสียงลงมติพิสูจน์ ‘ภูมิใจไทย’ ละเมิด MOA หรือไม่ หลังกลุ่มการเมืองทยอยไหลเข้า ยืนยันพรรคประชาชนไม่ได้เป็นนั่งร้าน พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

วันนี้ (18 ก.ย. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อตกลง MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เรื่องห้ามไม่ให้พรรคภูมิใจไทยกระทำตัวให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก แต่มีกลุ่มก้อนการเมืองไหลเข้ามาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ทำให้ประชาชนถูกมองว่าเป็นนั่งร้านให้พรรคภูมิใจไทย

เราไม่ได้เป็นนั่งร้านให้กับใคร และไม่ได้เป็นนั่งร้านให้กับพรรคภูมิใจไทย เมื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้ามาทําหน้าที่ เราก็พร้อมตรวจสอบ ทั้งการอภิปรายในสภาฯ และกลไก 151 หากมีเหตุที่ทําให้เราเชื่อได้ว่ารัฐบาลนายอนุทินทําผิด MOA ก็พร้อมใช้ทุกกลไกในการเดินหน้าตรวจสอบ

เมื่อถามถึงว่าเป็นผลของ MOA ที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ตอนนี้หากมองในมุมหนึ่ง เชื่อว่าอาจจะเร็วไปที่อาจจะประเมินแบบนั้น เพราะสุดท้าย ถ้าจะดูว่าพรรคภูมิใจไทยละเมิด MOA หรือไม่ อาจจะต้องยึดการลงมติในสภาฯ เป็นสําคัญด้วย ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต้องอยู่ที่พรรคประชาชนเองว่า ได้มีการดําเนินการอย่างไร เช่น หากต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจขึ้นมา ก็ต้องมีการลงมติซึ่งการลงมติ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยได้ละเมิดข้อตกลงหรือไม่

ทั้งนี้ได้ประเมินกรณีกลุ่มการเมืองไหลเข้าไปยังพรรคภูมิใจไทยไว้ก่อนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ระบุว่ามีการประเมินไว้อยู่แล้วก่อนหน้านี้ แต่อย่างที่บอกไปว่า หากเราเห็นตามหน้าข่าว บางทีอาจจะตัดสินไม่ได้แบบนั้น 100% เพราะการรวมขั้ว รวมกลุ่มการเมืองต่าง ๆ บางทีมีเรื่องของตําแหน่งรัฐมนตรี หรือตําแหน่งอื่น ๆ ที่มีการต่อรองกัน แต่ยืนยันว่า เราพร้อมทําหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบ ส่วนการละเมิดหรือไม่ละเมิด MOA นั้นก็อยู่ที่เสียงในสภาฯ ที่จะมีการลงมติ

นายณัฐพงษ์ น้อมรับสิ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ต้องพยายามอธิบายและทําความเข้าใจของกับสังคม เราจะเป็นนั่งร้านหรือไม่ก็อยู่ที่การทําหน้าที่ของเราถ้าเราทําหน้าที่ฝ่ายค้านเข้มแข็งอย่างเต็มที่ ก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งว่า พรรคประชาชนไม่ได้เป็นนั่งร้านให้นายอนุทิน หรือพรรคภูมิใจไทย และสิ่งที่จะพิสูจน์ได้ว่า ตกลงแล้วภูมิใจไทยละเมิดข้อตกลงหรือไม่ ต้องดูที่การลงมติในสภา และเสียง สส.

ส่วนการยับยั้งการละเมิด MOA เพราะหากรออภิปรายไม่ไว้วางใจอาจช้าเกินไปนั้น ตอนนี้คงไม่ได้ชัดมาก แต่ตอนนี้สิ่งที่ตอบได้ชัดคือ เราพร้อมใช้ทุกกลไกในสภาฯ ในการตรวจสอบ ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไร ต้องมีการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองอีกครั้งหนึ่งว่า มีเหตุที่ทําให้เราต้องยื่นหรือไม่

ทั้งนี้กรณีที่มีการกดดันเจ้าหน้าที่ไม่ให้ดําเนินการเรื่องกรณีเขากระโดงหรือคดีฮั้ว สว. นายณัฐพงษ์ ชี้แจงว่า เวทีแรกที่เราทําหน้าที่แน่นอนคือการอภิปรายวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากเวทีนั้นไม่สามารถทําให้เกิดการยับยั้ง หรือมีการกระทําความผิดขึ้นมาจริง ๆ มีการใช้อํานาจที่ไม่เหมาะสมจริง ๆ เราพร้อมจะใช้กลไกอื่น ๆ ที่เป็นอาวุธที่แรงมากขึ้น เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และผลการลงมติก็จะเป็นตัวตัดสินว่าตกลงแล้ว พรรคภูมิใจไทยได้ละเมิดข้อตกลงหรือไม่อย่างไร

นานณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่าใน MOA ยังมีข้อตกลงส่วนอื่น ๆ ที่มองว่ามีทิศทางที่ดีสําหรับประเทศ อย่างเรื่องการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ภาพรวมยังเดินไปในทิศทางที่ดีอยู่ รวมถึงการผ่านกฎหมายที่สําคัญ ๆ ให้กับประชาชนหลาย ๆ ฉบับหากเราสังเกตการประชุมสภาฯ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างมีประสิทธิภาพ มีการผ่านกฎหมายต่าง ๆ ที่ประชาชนเฝ้ารอมานาน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ว่า การตัดสินใจของพรรคประชาชน เราต้องการตัดสินใจผลักดันวาระก้าวหน้าให้กับประเทศ มุ่งหน้าสู่การยุบสภา การพิจารณากฎหมายก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เสียงของพรรคประชาชนในสภาฯ กํากับให้เดินหน้าไปได้

Related Posts

Send this to a friend