POLITICS

‘อุบลศักดิ์’ ซัดบัตรคนจน ทำคนไทยจน 15 ล้านคน โวปีหน้า ‘เพื่อไทย’ เป็นรัฐบาล จะเผาบัตรคนจนทิ้ง

วันนี้ (18 ส.ค. 65) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 18 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ภาพรวมเป็นไปอย่างเชื่องช้า ขณะที่ภาพรวมในการอภิปรายนั้น เน้นการท้วงติงเรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เหมาะสม พร้อมตั้งข้อสังเกตต่อการทำงบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ อาทิ ในมาตรา 9 งบประมาณของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานในกำกับ ที่มติกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก ปรับลดวงเงินให้เหลือ 10,421 ล้านบาท

สำหรับการอภิปรายที่น่าสนใจ อาทิ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ส.ส. พรรคประชาชาติ ในฐานะกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย ขอปรับลด 6% หรือ 629 ล้านบาทโดยให้เหตุผลว่า มีความเป็นห่วงกระทรวงการคลังไม่ให้ความสำคัญกับการจัดเก็บภาษี และมีการปล่อยให้การจัดเก็บภาษีอยู่ในความรับผิดชอบของ 3 หน่วยงานจัดเก็บ ซึ่งอาจขาดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินการ พร้อมกับเสนอแนะให้กระทรวงการคลังเน้นการจัดเก็บภาษีที่เน้นลดความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะปรับปรุงการจัดเก็บภาษีของกลุ่มบุคคลที่มีฐานะดี ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดกรณีที่มีผู้มีฐานะดีปลูกกล้วยกลางเมืองหลวง แล้วกระทรวงการคลังวินิจฉัยว่ามีการทำการเกษตรแล้ว

“สำหรับนโยบายรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะการจัดเก็บค่าไฟปัจจุบันที่มีการขึ้นค่าไฟเป็นการผลักภาระให้ประชาชน ขณะเดียวกันก็สะท้อนว่าการประมูลผ่านกรมบัญชีกลางกลายเป็นสนามฮั้วประมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยเพราะมีผู้ได้รายชื่อของการประมูลไปก่อนทำให้เกิดการประมูลที่มีราคาใกล้เคียงกับราคากลางที่ตั้งไว้” พ.ต.อ. ทวี กล่าว

ต่อมา นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส. จังหวัดลพบุรี พรรคเพื่อไทย ทักท้วงต่อการใช้งบประมาณของกระทรวงการคลังเพื่อดำเนินนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน เพราะพบว่าการช่วยเหลือดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพ เพราะปัจจุบันมียอดคนจนเพิ่มมากขึ้น และหากปีหน้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะเผาบัตรคนจนทิ้งทั้งหมด เพราะคนจนจะรวยแบบเสมอภาค ทั้งนี้ การบริหารจัดการของรัฐบาลกู้อย่างเดียว ถือว่าหย่อนสมรรถภาพทางสมอง ก่อนหน้านี้คนมีรถป้ายแดง มีบ้าน แต่ปัจจุบันบ้าน รถโดนยึด รัฐบาลสร้างคนจน 15 ล้านคน จึงขอไว้อาลัยให้กับรัฐบาลเผด็จการ

ขณะที่มาตรา 10 กระทรวงการต่างประเทศ กรรมาธิการฯ ไม่มีการแก้ไข คงวงเงินที่จัดสรร 3,763 ล้านบาท ภาพรวมของการอภิปราย สมาชิกได้เสนอความเห็นต่อการจัดสรรงบประมาณที่เน้นภารกิจการจัดประชุมสุดยอดผู้ทำเศรษฐกิจ (เอเปค) ที่กระทรวงการต่างประเทศว่า ควรทำให้เต็มที่ และเชิญผู้นำของแต่ละประเทศเข้ามาร่วมให้มากที่สุด

Related Posts

Send this to a friend