POLITICS

รัฐบาลเปิดทำเนียบ เฉลิมฉลองสมรสเท่าเทียม

รัฐบาลเปิดทำเนียบ เฉลิมฉลองสมรสเท่าเทียม ยืนยัน พร้อมผลักดันสิทธิขั้นพื้นฐาน เตรียมเสนอจัดงาน World Pride 2030

วันนี้ (18 มิ.ย. 67) รัฐบาลเปิดทำเนียบรัฐบาลเฉลิมฉลองหลังจากที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภา ได้ผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ … ) พ.ศ. … หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิเพื่อเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทูตจากหลายประเทศ และหน่วยงานต่าง ๆ

เริ่มต้นจากการเดินพรมสีรุ้งจากหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อมารอรับขบวนประชาชนที่แห่มาจากอาคารรัฐสภา และเดินเข้ามาบริเวณงานผ่านซุ้มด้านหน้าสนามหญ้า โดยมีข้อความเขียนไว้ว่า “สมรสเท่าเทียม” จากนั้น ได้ถ่ายภาพ วาดรูปออกแบบประวัติศาสตร์ของกลุ่มผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศลงบนผืนผ้าใบ

จากนั้น กลุ่มตัวแทนคู่รัก ปู่กัญจน์ – (กัญจน์ เกิดมีมูล) และย่าตุ๊ก – (ปกชกร วงศ์สุภาร์) กล่าวความรู้สึกหลังจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่าน ว่า วันนี้เป็นวันรอคอยมาทั้งชีวิต ตอนนี้อายุจะ 70 ปีแล้ว ซึ่งประวัติศาสตร์ต้องจารึก และทั่วโลกต้องจดจำ ว่าประเทศไทยกล้าผ่านกฎหมายฉบับนี้ ความรู้สึกวันนี้ตื่นเต้นกว่าที่คิดมาก เรายินดีมาก ซึ่งไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อลูกหลานรุ่นหลัง จะมีชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี มีเกียรติ และได้รับการยอมรับ

ด้าน วู้ดดี้ – วุฒิธร มิลินทจินดา และ โอ๊ต – อัครพล จับจิตใจดล กล่าวว่า จากวันนั้นที่แต่งงานกันก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว เราก็หวังว่าสักวันสมรสเท่าเทียมผ่าน ตอนนี้ 10 ปีแห่งการรอคอยมาถึงแล้ว และในวันนี้ ประเทศไทยกำลังจะมีกฎหมายนี้เกิดขึ้นแล้ว

นายวราวุธ ศิลปอาชา ในฐานะตัวแทนรัฐบาลกล่าวว่า กว่า 12 ปีที่เดินทางฝ่าฟันกฎหมายฉบับแล้ว ฉบับเล่า ผ่านบ้าง ตกบ้าง วันนี้เราผ่านเรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภา ได้ผ่านกฎหมายนี้เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของไทย ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

”งานนี้ไม่มีการเมือง ไม่มีรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน แต่เพื่อคนไทย 66 ล้านคน พี่น้อง LGBTQ จะได้รับสิทธิเท่าเทียมกันทุกคน แม้นายกฯ ไม่มา แต่ทุกคนในรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้ไทยเป็นมิตรกับคนทุกคน ทุกเพศ ทุกสถานะ ในอาเซียนเราเป็นประเทศแรก และในเอเชีย เราเป็นประเทศที่สาม“ นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวต่ออีกว่า ถือเป็นสิทธิมนุษยชนพื้นฐาน ที่พวกเราทุกคนทุกเพศควรได้รับอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นความภาคภูมิใจของสังคมไทยที่ร่วมกันผลักดันไปสู่สังคมแห่งความเท่าเทียม และเคารพในความหลากหลาย เพื่อรองรับให้บุคคลเพศเดียวกันสามารถหมั้น และสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิงกฎหมายสมรสเท่าเทียม

นอกจากจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถสมรสกันได้ตามกฎหมายแล้ว คู่สมรสยังมีสิทธิและประโยชน์ครอบคลุมทุกมิติ เช่น สิทธิจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิเป็นผู้จัดการแทนในทางอาญา เช่นเดียวกับสามี-ภรรยา สิทธิรับมรดกหากอีกฝ่ายเสียชีวิต สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย สิทธิจัดการศพ สิทธิได้รับประโยชน์และสวัสดิการจากรัฐในฐานะคู่สมรส เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมถึงสิทธิของคู่สมรสที่มีสิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดโอกาสในการกู้ร่วมเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในฐานะคู่สมรส

“รัฐบาลพร้อมทำงานร่วมกับทุกคน พร้อมรับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย เพื่อร่วมผลักดันและสร้างความรู้ความเข้าใจให้การบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีประสิทธิภาพ และพร้อมผลักดันสิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ ของบุคคลทุกเพศให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เพราะรัฐบาลเชื่อมั่นว่าทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และ LGBTQ+ ทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกคนสามารถทำในสิ่งที่อยากทำเป็นในสิ่งที่อยากเป็น และทุกคนมีคุณค่า และควรได้รับการเคารพในศักดิ์ศรีอย่างเท่าเทียมกัน การสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมระหว่างเพศดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคม ความสำเร็จของกฎหมายสมรสเท่าเทียมในวันนี้ จึงถือเป็นโอกาสสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าทุกภาคส่วน พร้อมที่จะร่วมกันส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างจริงจัง และรัฐบาลพร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรากฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ พร้อมทั้งสนับสนุนทุกกิจกรรม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2030 ต่อไป” นายวราวุธ กล่าวทิ้งท้าย

จากนั้น นายภูมิธรรม เป็นตัวแทนในการมอบของที่ระลึกเพื่อความเท่าเทียม ให้กับตัวแทนภาคประชาชน และมีการโยนช่อดอกไม้ให้กับประชาชนที่มาร่วมงานด้วย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat