POLITICS

กต. ประท้วง ‘กัมพูชา’ ย้ำชัด ขอให้แยกเรื่องทวิภาคี ออกจากการเจรจาการค้า

กต. ประท้วง ‘กัมพูชา’ ทุกช่องทาง พร้อมแจงประชาคมโลกทุกโอกาส ย้ำชัด ขอให้แยกเรื่องทวิภาคี ออกจากการเจรจาการค้า ด้าน ‘พาณิชย์’ เชื่อ เจรจาภาษีต่างตอบแทนกับสหรัฐฯ ปิดดีลปีนี้ ส่วยคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ติวเข้ม ยึดเป้าหมายเดิม

วันนี้ (17 พ.ย. 68) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเจรจาการค้าไทยกับต่างประเทศ ว่า จากเหตุการที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการทันทีในทุกระดับ และไม่มีช่องว่าง โดยที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ประท้วงไปยังรองนายกรัฐมนตรีและกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ถึง 2 ครั้ง ในทันที และทำหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทยในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงหารือกับประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศมาเลเซีย โดยที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือถึงประธานประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเอกสารเป็นการย้ำว่า ประเทศไทยยึดมั่นในเส้นทางแห่งสันติภาพ เคารพปฏิบัติตามประกาศร่วมสันติภาพ แต่การละเมิดของกัมพูชา ไทยจึงขอสงวนสิทธิ์ตามความจำเป็นในการปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน รวมถึงความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งประเทศไทยจะกลับมาปฏิบัติตามอีกครั้งก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของประเทศกัมพูชา

ส่วนการหารือของนายกรัฐมนตรี และผู้นำสองประเทศในสองวันที่ผ่านมา มีประเด็นสำคัญ คือ นายกรัฐมนตรี ขอให้มีการแยกเรื่องทวิภาคีที่เป็นเรื่องของไทย และกัมพูชา ออกจากการเจรจาการค้าซึ่งเป็นผลประโยชน์ของไทยและสหรัฐอเมริกา ไม่เกี่ยวกับประเทศอื่น รวมทั้งขอให้ประธานอาเซียน ช่วยหาทางฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพ โดยคำนึงถึงข้อเสนอของไทย คือให้กัมพูชากล่าวขอโทษ แสดงความรับผิดชอบ ป้องกัน และสอบสวนเรื่องดังกล่าว

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ไปยังประเทศที่ญี่ปุ่น ในฐานะประธานภาคีประชุมอนุสัญญาออตตาวา ทำหนังสือถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UNSG) รวมทั้งยังทำหนังสือประท้วงไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งศาสตร์ประชาชาติ (UNSC) เกี่ยวกับการลุกล้ำอธิปไตยไทย

นายนิกรเดช ยังเปิดเผยถึงการเดินหน้าของกระทรวงการต่างประเทศ ว่า จะชี้แจงต่อประชาคมโลกในทุกโอกาส โดยที่นายสีหศักดิ์ มีกำหนดเข้าร่วมประชุมการประชุมรัฐมนตรีอินโด-แปซิฟิก (IPMF) ครั้งที่ 4 และพบกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทยในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้จะยกประเด็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ในการประชุมภาคีรัฐอนุสัญญา ครั้งที่ 12 ระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

นอกจากนี้ประเทศไทยจะเดินหน้า ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน และการประชุมเอเปก คือเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ โดยประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ระดับรัฐมนตรี ในช่วงเดือนธันวาคมนี้

ด้าน น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวบนเวทีแถลง สถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา และการเจรจาการค้าไทยกับต่างประเทศ ว่า ตามที่ทุกท่านได้ทราบว่า ไทย มีการพูดคุยเรื่อง “ภาษีต่างตอบแทน” กับสหรัฐอเมริกา มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงรัฐบาลนี้เข้ามาก็ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยข้อมูลล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นข้อความของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ได้กล่าวไว้ ก็มั่นใจว่าสหรัฐฯ น่าจะมีเป้าหมายเดียวกันที่จะเจรจารายละเอียดความตกลงที่เกี่ยวข้องกับภาษีต่างตอบแทนให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้

สำหรับประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เน้นย้ำกับ UNHCR มาตลอด โดยนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เจอกับผู้แทนการค้าสหรัฐในช่วงเอเปค ซึ่งได้เน้นย้ำตลอดเวลาว่าจะต้องมีการแยกกันอย่างชัดเจนระหว่างเรื่องความมั่นคง และเรื่องการค้า ซึ่งในรายละเอียดความตกลงเราทำการบ้านอย่างจริงจังเพื่อหารือกับสหรัฐฯอย่างเข้มข้น โดยได้มีการจัดตั้งคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะทำงานในเรื่องนี้ ซึ่ง ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการเจรจากับสหรัฐอย่างต่อเนื่อง และยึดในเป้าหมายเดิม

ส่วนเรื่องภายในประเทศ เราได้เตรียมเรื่องของผู้ประกอบการที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถในสินค้า และบริการที่เรามีศักยภาพในสินค้าและบริการ รวมไปถึงการหาตลาดใหม่ การพูดคุยกับประเทศคู่เจรจาทั้งหลายที่มีอยู่ การขยายตลาดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับประเทศคู่เจรจาทั้งหลายที่เรามีอยู่ และในแง่ของการทำความตกลงเสรีการค้าฉบับใหม่เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งทั้ง 2 สิ่ง เป็นการเตรียมความพร้อมกับผู้ประกอบการในการต่อสู้กับช่วงสภาวะการแข่งขันค่อนข้างสูง และมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ส่งผลกระทบต่อการทำการค้า การลงทุนในช่วงนี้

น.ส.โชติมา ยืนยันว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในเป้าหมายเดิมที่จะทำงานอย่างเต็มที่และจะหารือกับทุกภาคส่วนอย่างที่เคยทำมา และจะทำต่อไป ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐภาคเอกชนและผู้ประกอบการ วัตถุประสงค์ในการเจรจาจะต้องถูกนำมาพิจารณาอย่างครบถ้วนและรอบด้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่หยุดเจรจาใช่หรือไม่ น.ส.โชติมา กล่าวว่า ขณะนี้ไทยยึดกรอบจากที่ได้มีการพูดคุยกับผู้นำทั้งสองประเทศ และยืนยันกลับไปยัง UNHCR ว่าเราจะยังเดินหน้าพร้อมเจรจา ส่วนการเจรจาจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใดนั้น นางสาวโชติมา กล่าวว่า ขณะอยู่ในช่วงหารือในรายละเอียดของการเจรจาการค้าต่างตอบแทน ซึ่งคณะทำงานฝ่ายไทยจะมีการประชุมกันในเร็วๆ นี้ เพื่อเตรียมพร้อม และกำหนดวันต่อไป อีกทั้งระหว่างนี้ไม่มีการหยุดการทำงาน พร้อมย้ำว่าในการเจรการค้าต่างตอบแทน จะไม่มีการนำเรื่องความมั่นคง มารวมกับการเจรจาการค้าอย่างเเน่นอน

Related Posts

Send this to a friend