POLITICS

กมธ.ชายแดนใต้ จ่อเรียก ‘ภูมิธรรม-เลขา สมช.-แม่ทัพภาคที่ 4’ ถกคดีตากใบ 24 ต.ค.นี้

กมธ.ชายแดนใต้ จ่อเรียก ‘ภูมิธรรม-เลขา สมช.-แม่ทัพภาคที่ 4’ ถกคดีตากใบ 24 ต.ค.นี้ หาวิธีรับมือหลังหมดอายุความ หวั่นเป็นเงื่อนไขเหตุรุนแรง

วันนี้ (17 ต.ค. 67) นางสาวพรรณิการ์ วาณิช โฆษกคณะก้าวหน้า ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมาธิการคดีตากใบ ซึ่งจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ว่า วันนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 8 วันก่อนที่คดีตากใบจะหมดอายุความ ซึ่งจำเลยและผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดที่มีการออกหมายจับยังไม่สามารถติดตามตัวจำเลยมาได้แม้แต่คนเดียว

โดยเมื่อวานนี้ (16 ต.ค. 67) คณะกรรมาธิการหารือกันอย่างค่อนข้างที่จะมีความกังวลตรงกัน ซึ่งในคณะกรรมาธิการนั้น ก็ประกอบด้วย นักวิชาการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญประเด็นเรื่องสันติภาพชายแดนใต้ ตัวแทนของเจ้าหน้าที่รัฐ สส.ในฐานะผู้แทนราษฏร ซึ่งเป็น สส.ในเขตพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเมื่อทุกฝ่ายได้หารือแล้ว ก็มีความเห็นตรงกันว่า คดีนี้เป็นคดีที่จะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญ หากคดีหมดอายุความลงในวันที่ 25 ต.ค.นี้ โดยที่ไม่สามารถนำตัวจำเลยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่สามารถทำให้คดีดำเนินต่อไปได้

คณะกรรมาธิการ และสส.ในพื้นที่สะท้อนว่า เวลาไปละหมาด ไปเจอประชาชนในพื้นที่แต่ละครั้ง จะโดนถามทุกครั้งว่า จับตัวจำเลยได้บ้างหรือยัง เนื่องจากคนถูกออกหมายจับมีถึง 10 กว่าคน ซึ่ง สส.เองก็รู้ว่าประชาชนติดตามข่าวทุกวัน หรือฝ่ายที่ติดตามเรื่องความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพก็แสดงความกังวล

ตนเองเพิ่งจะไปพบกับผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ฝ่ายมาเลเซีย ผู้อำนวยความสะดวกฯ ยืนยันว่า กลุ่มประเทศ OIC หรือองค์การความร่วมมืออิสลาม ให้ความสำคัญและจับตามอง ทุกฝ่ายทราบดีว่ามีความเป็นได้สูงที่คดีอาจจะหมดอายุความ โดยที่ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิด ผู้ที่ถูกกล่าวหาเข้าสู่กระบวนการได้

คณะกรรมาธิการจึงมีมติว่าเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือกัน ในวันที่ 24 ต.ค. หรือ 1 วัน ก่อนที่คดีจะหมดอายุความลง ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4

เนื่องจากการติดตามตัวจำเลย และผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดี มีคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ และคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ติดตามอยู่แล้ว ส่วนคณะกรรมาธิการวิสามัญชายแดนใต้ฯ ต้องการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาลมาหารือร่วมกัน หากคดีหมดอายุความ หรือเป็นไปตามที่กังวลจะรับมืออย่างไร อาจจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือว่ามีการฉกฉกฉวยเอาประเด็นนี้ ไปเป็นข้ออ้างในการก่อเหตุความรุนแรงเพิ่มขึ้นในพื้นที่หรือไม่

การหารือในสัปดาห์หน้า เราหวังว่าจะเป็นการมองไปข้างหน้า ไม่ใช่การพูดถึงคดีความ เนื่องจากว่าวันที่ 24 ต.ค.นั้น เหลือเพียง 1 วัน ก่อนจะหมดอายุความ แต่ในการหารือครั้งนี้ จะเป็นการมองไปที่อนาคตว่า เมื่อคดีหมดอายุความลง จะมีการหาวิธีรับมือสถานการณ์ที่ดีที่สุดอย่างไร ทั้งในแง่ของการประคับประคองบรรยากาศในการเจรจาสันติภาพที่ได้เริ่มมาในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนใต้ด้วย ซึ่งเป็นความกังวลของคณะกรรมาธิการ

ส่วนกรณีที่ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลาออก ในฐานะที่ตนเองเป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการว่า เรื่องนี้มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า สถานะความเป็นสมาชิกหรือไม่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของพลเอกพิศาล ไม่มีความเกี่ยวข้องต่อการดำเนินคดี เนื่องจากการลาออกจากความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หมายความว่าสิ้นสุดสถานะ สส. ซึ่งก็ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพราะคดีนี้มีการฟ้องตรงต่อศาล สส.อยู่ในฐานะจำเลย ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มกัน

แม้ว่าพลเอกพิศาลจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่หมายจับในคดียังคงอยู่ ตนเองไม่อยากให้โฟกัสแค่ตัวจำเลยคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการทหารตำรวจพลเรือนระดับสูง ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ ณ ขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพรรคไหนก็ต้องมีหน้าที่แสดงเจตจำนงทางการเมืองที่มากพอในการนำตัวผู้ถูกกล่าวหา และการนำตัวผู้ถูกออกหมายจับมาสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้

การที่วันนี้หลายฝ่ายเริ่มมองตรงกันว่า อาจจะไม่ทัน และจะไม่สามารถนำตัวจำเลยมาเข้าสู่กระบวนการได้แม้แต่คนเดียว เรื่องนี้กระทบอย่างมาก เพราะในระดับการเจรจาสันติภาพจะถูกมองว่า รัฐบาลนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจ หรือมีนโยบายชัดเจนที่จะเจรจาทางการเมืองมากพอหรือไม่ ตั้งแต่การเจรจาที่ได้เริ่มมาในสมัยของนายเศรษฐา ส่วนในระดับพื้นที่คงไม่ต้องพูดถึง เพราะประชาชนในพื้นที่เขารู้สึกหมดหวังตั้งแต่ในวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่จำเลยก็ไม่มาปรากฏตัวตามนัด ทั้งที่คดีนี้ดำเนินมาไกลถึงขั้นมีการออกหมายจับ และญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดคาดหวังว่า จะได้เห็นความพยายามอย่างถึงที่สุดของรัฐบาลในการทำให้กระบวนการเดินหน้าต่อไปได้

นี่จึงเป็นโอกาสสุดท้ายของรัฐบาลว่า ใน 8 วันนี้ รัฐบาลจะสามารถแสดงเจตจำนงทางการเมืองอย่างแรงกล้าในการตามตัวจำเลย ซึ่งมี 2 คนที่อยู่ในต่างประเทศ และกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้มีความพยายามในการเจรจาระดับผู้นำประเทศหรือไม่ ส่วนจำเลยที่เหลือที่ยังอยู่ในประเทศไทย ได้มีกระบวนการอื่น ฟๆ นอกเหนือจากกระบวนการของข้าราชการปกติที่ดำเนินไปอยู่แล้ว เพื่อที่จะให้นำตัวจำเลยมาได้หรือไม่

นางสาวพรรณิการ์ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะไม่เกี่ยวกับกระบวนการศาล แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตำรวจ และอัยการจะต้องนำตัวจำเลยมาส่งศาล ซึ่งทั้งตำรวจและอัยการก็อยู่ภายใต้ฝ่ายบริหารอ ขึ้นอยู่กับนายกฯ และรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง สำหรับกรณีที่รัฐบาล ระบุว่าผู้เสียหายได้รับการเยียวยาแล้วนั้น ตนเองขอถามกลับว่า ถ้าเกิดมีการจ่ายเงินเยียวยาจะไม่สามารถดำเนินคดีอาญาต่อได้ แล้วการที่มีการรับเงินเยียวยาในส่วนของพี่น้องเสื้อแดงที่ได้เสียชีวิตไปจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมในปี 53 แต่การที่มีการดำเนินการเรียกร้องว่า จะต้องมีการฟื้นคดีอาญาขึ้นมา แล้วนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการให้ได้ เป็นเรื่องหลอกลวงหรือไม่ เพราะเป็นกรณีเดียวกัน

การเยียวยาสมัยรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นสิ่งที่ดี เป็นการแสดงความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีของการสลายการชุมนุมเสื้อแดง หรือกรณีตากใบ แต่การรับเงินเยียวยาไม่ได้เกี่ยวกับการทำให้กระบวนการทางอาญาสิ้นสุดลง แม้ในปี 55 จะมีความพยายามจริง ที่จะให้ญาติพี่น้องของผู้ที่รับเงินเยียวยา เซ็นบอกว่าจะไม่มีการดำเนินการทางอาญาต่อไป อย่างไรเรื่องนี้ถือว่าผิดหลักการสากลอย่างมาก

ส่วนคดีตากใบไม่ได้มีญาติพี่น้องที่รับเงินเยียวยา เซ็นยินยอมว่าจะไม่มีการดำเนินคดีทางอาญา และในกระบวนการสร้างความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน มี 4 ขั้นตอน เพราะฉะนั้น การจ่ายเงินเยียวยาเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถนำมาซึ่งความปรองดองสมานฉันท์ที่แท้จริงได้ และไม่ได้หมายความว่ารับเงินแล้วจบ ถ้ารับเงินแล้วจบ ตนมองว่า ต้องตั้งคำถามกับคดีสลายการชุมนุมเสื้อแดง ว่ารับเงินไปแล้ว ก็ต้องจบเหมือนกันหรือไม่

ทั้งนี้หากคดีหมดอายุความโดยไม่สามารถนำตัวจำเลยมาดำเนินคดีได้ จะส่งผลต่อคะแนนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นางสาวพรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องสุดท้ายที่เราควรคำนึงถึงในการเยียวยาและให้ความเป็นธรรมต่อคดีตากใบคือ คะแนนเสียง การที่พรรคการเมืองหลายพรรคที่กระตือรือร้น หรือหลายพรรคที่อาจจะถูกมองว่าไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควรนั้น ตนยังไม่อยากให้มองว่าทำหรือไม่ทำเพราะคำนึงถึงคะแนนเสียง แต่เมื่อพวกเราเป็นนักการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน ก็มีหน้าที่ที่จะทำงานรับใช้ประชาชน

เนื่องจากในกรณีนี้ประชาชนทั่วประเทศเห็นตรงกันว่า ผู้ที่เสียชีวิตนั้น เสียชีวิตโดยไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่ประมาท หรือไม่มีความระมัดระวังเพียงพอ รวมถึงการสถานการณ์การชุมนุมที่มีการใช้อาวุธหนัก ยิงเข้าใส่ประชาชน จนมีการเสียชีวิตในที่ชุมนุม ตนคิดว่าหน้าที่สำคัญของนักการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือรัฐบาล ซึ่งมีอำนาจในการบริหารอยู่ คือการทำให้ประชาชนกลับมาไว้เนื้อเชื่อใจรัฐอีกครั้งว่า รัฐจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับเขาได้ ซึ่งเรื่องนี้คือรากฐานที่สุด ในการนำไปสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งในชายแดนใต้

Related Posts

Send this to a friend