POLITICS

โฆษกรัฐบาล เผย ‘กล้วยหอมทองหนองบัวแดง’ ขึ้นทะเบียน GI แล้ว

ขณะที่ ‘ทุเรียนไทย’ ใช้แอปพลิเคชั่นช่วยมาตรฐานการผลิต เพิ่มสินค้าคุณภาพส่งออกต่างประเทศ

วันนี้ (11 พ.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้รับทราบว่า ‘กล้วยหอมทองหนองบัวแดง’ ของ จ.ชัยภูมิ ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) สะท้อนคุณภาพของผลไม้ไทยที่มีศักยภาพและอัตลักษณ์จากแหล่งผลิตท้องถิ่น ขณะที่ ‘ทุเรียนไทย’ มีแพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน ‘KASETTRACK’ ช่วยควบคุมมาตรฐานการผลิต พร้อมส่งออกผลไม้ไทยในตลาดต่างประเทศควบคู่การใช้นวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้า สร้างรายได้ให้ชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

นายอนุชา กล่าวว่า กล้วยหอมทองหนองบัวแดงได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นการนำกล้วยหอมทองพันธุ์กาบดำจาก จ.ลพบุรี มาปลูกในพื้นที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะแร่ธาตุโพแทสเซียมที่จำเป็นต่อการเติบโตของต้นกล้วย ส่งผลให้กล้วยหอมทองหนองบัวแดงมีผลยาวใหญ่ สีเหลืองนวล เนื้อแน่น เหนียวนุ่ม และมีเนื้อละเอียดกว่าชนิดอื่น เปลือกมีความหนา ไม่มีจุดดำ เนื้อกล้วยจึงไม่ช้ำ สะดวกต่อการขนส่ง มีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศที่สำคัญ คือ ประเทศญี่ปุ่น สร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท โดยภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวทางส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DEPA) บริษัท วีเดฟซอฟท์ จำกัด ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ‘KASETTRACK’ และกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียน อ.นายายอาม จ.จันทบุรี บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการใช้ KASETTRACK เพื่อบันทึกข้อมูลการผลิตให้แก่ชาวสวนทุเรียน สร้างมาตรฐานการผลิตทุเรียนคุณภาพ โดยระบบจะสร้างขั้นตอนการผลิตทุเรียนตามมาตรฐาน GAP บันทึกและวิเคราะห์ความก้าวหน้ากิจกรรมการผลิต และการดูแลในทุกระยะการเติบโต สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศผู้นำเข้า โดยเฉพาะจีน ซึ่งนำเข้าเป็นอันดับหนึ่งของไทย ปัจจุบันเกษตรกรใช้งาน KASETTRACK แล้วกว่า 1,000 รายใน 8 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี ระยอง ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ยะลา และสุโขทัย ตั้งเป้าดูแลการผลิตทุเรียนไทยกว่า 1 แสนตัน สร้างเกษตรกรคุณภาพมาตรฐาน GAP ไม่น้อยกว่า 10,000 รายในปี 2569

“นายกรัฐมนตรีสนับสนุนความร่วมมือของทุกหน่วยงานที่ผลักดันและพัฒนาศักยภาพภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลไม้ไทยซึ่งเป็นผลผลิตจากชุมชนท้องถิ่น ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาทั้งการส่งเสริมสินค้า GI และการผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อควบคุมการผลิต เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างมูลค่าทางการค้า คงมาตรฐานคุณภาพสินค้าไทยในตลาดโลก ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการท้องถิ่น สร้างความมั่นคงให้เศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน” นายอนุชา กล่าว

Related Posts

Send this to a friend