ยุติธรรม แจงไทม์ไลน์ 8 แกนนำการชุมนุม ถูกคุมตัวห้องเดียวกันไม่มีคนอื่นเข้าออก
โฆษกกระทรวงยุติธรรม แจงไทม์ไลน์ 8 แกนนำการชุมนุมถูกคุมตัวห้องเดียวกันไม่มีคนอื่นเข้าออก ทำตามมาตรการป้องกันเข้มข้น เผยตรวจ 2 ครั้งแรกไม่เจอเชื้อ รอผลสอบสวนโรคหลังพบติดโควิด 4 ราย
นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีการรับตัวกลุ่มผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ศาลเพิกถอนประกันตัว 8 ราย และได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ว่า วันที่ 9 ส.ค. 2564 เวลา 23.30 น. เรือนจำชั่วคราวรังสิต ได้รับตัวกลุ่มผู้ต้องขังคดีการเมืองที่ศาลเพิกถอนประกันตัว ทั้ง 8 ราย และได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Rapid Test ผลตรวจเป็นลบทั้ง 8 ราย และส่งตรวจแบบ PCR ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งต้องรอผล เรือนจำได้ควบคุมตัวทั้ง 8 ราย ในห้องกักโรค 2/2 อาคาร 2 เพื่อรอดูอาการตามระเบียบ 14 วัน
จากนั้นวันที่ 10 ส.ค. เวลา 14.00 น. ผลตรวจ PCR ของทั้ง 8 ราย ออกมาผลเป็นลบ และวันที่ 11 – 13 ส.ค. ทางเรือนจำได้ตรวจสอบสภาพร่างกายของผู้ต้องขังทั้ง 8 ราย พบว่า ปกติ โดยวันที่ 14 ส.ค. ได้รับแจ้งจากว่า นายธนพัฒน์ กาเพ็ง มีไข้อุณหภูมิร่างกายสูง จึงได้ตรวจ Antigen Test Kit พบว่ามีผลเป็นบวก ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศาลธัญบุรีว่า นายธนพัฒน์ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว เรือนจำได้ส่งศูนย์พักคอยวัดสิงห์ เขตจอมทอง กทม. ส่วนผู้ต้องขังอีก 7 ราย ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูงได้ดำเนินการตรวจด้วยวิธี PCR ซ้ำใหม่อีกครั้งในวันเดียวกัน
นายวัลลภ กล่าวอีกว่า วันที่ 15 ส.ค. เวลา 15.16 น. ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้แจ้งผลการตรวจ PCR พบว่า ติดเชื้อ 1 ราย ได้แก่ นายสิริชัย นาถึง จึงได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนอีก 2 ราย ได้แก่ นายพรหมศร (ฟ้า) วีระธรรมจารี และนายพริษฐ์ (เพนกวิน) ชิวารักษ์ มีค่าผลตรวจที่สูง จึงตรวจซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยัน ส่วนอีก 4 รายผลเป็นลบ ต่อมานายพรหมศร มีไข้สูง 39.2 องศา พยาบาลได้จ่ายยาลดไข้และยาฟ้าทะลายโจรให้ แต่ผู้ต้องขังไม่ยอมรับประทาน ต้องการออกไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์พร้อมนายสิริชัย นาถึง และได้ปลุกระดมผู้ต้องขังข้างห้องส่งเสียงโห่ร้องโวยวาย ใช้ยาสีฟันป้ายกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันการก่อเหตุการณ์ไม่สงบ เวลา 19.00 น. จึงส่งตัวนายพรหมศร ไปควบคุมตัวที่เรือนจำอำเภอธัญบุรี และในวันที่ 16 ส.ค. เวลา 13.05 น. ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้แจ้งผลตรวจ PCR ของผู้ต้องขังที่ดำเนินการตรวจซ้ำใหม่ทั้ง 2 รายผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด จึงประสานส่งตัวทั้ง 2 ราย ไปรับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และเวลา 14.30 น. เรือนจำอำเภอธัญบุรี ได้นำตัวนายพรหมศร ส่งไปรับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วยเช่นกัน
โฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อ 4 คน คือ 1.นายธนพัฒน์ กาเพ็ง ที่ได้รับการประกันตัวออกไปอยู่ศูนย์พักคอย 2.นายสิริชัย นาถึง เป็นผู้ป่วยสีเขียว 3.นายพรหมศร (ฟ้า) วีระธรรมจารี ผู้ป่วยสีเขียว และ 4.นายพริษฐ์ (เพนกวิน) ชิวารักษ์ เป็นผู้ป่วยสีเหลืองอ่อน เนื่องจากมีโรคประจำตัวและน้ำหนักมาก ซึ่งทั้ง 3 คนได้มีการตรวจวัดอุณภูมิ ค่าออกซิเจน x-ray ปอดทุกวัน ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ปกติและได้ให้การรักษายา Favipiravirแล้ว ส่วนอีก 4 รายตรวจไม่พบเชื้อ คือ นายชาติชาย แกดำ นายภานุพงศ์ จาดนอก นายณัฐชนน ไพโรจน์ และนายแซสาแมท ยังอยู่ในห้องกักโรคที่เรือนจำชั่วคราวรังสิต และได้มีการให้ยาฟ้าทะลายโจรและยาพาราเซตามอล แต่นายแซมสาแมท ไม่ยอมกินยาและมีพฤติกรรมไม่ยอมอาบน้ำ ซึ่งทางเรือนจำมีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด
นายวัลลภ กล่าวว่า ในส่วนของการรักษาผู้ต้องขังทั้ง 3 รายของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีการปฏิบัติตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปกติได้รับผู้ต้องขังที่ป่วยมารักษาอยู่แล้ว ดังนั้นทั้ง 3 รายนั้น โรงพยาบาลสามารถรักษาได้ไม่ถือว่าเกินศักยภาพของโรงพยาบาล ส่วนกรณีที่ผลการตรวจพบเชื้อออกมาช้า เนื่องจากทั้งนายพรหมศรและนายพริษฐ์มีค่า CT ที่สูงเกิน 30 อาจเกิดจากการที่เชื้อไวรัสมีน้อยหรืออยู่ในระยะฟักตัว 5-7 วัน ซึ่งทำให้การตรวจเชื้อพบได้ช้า
โดยจากนี้ทางเรือนจำได้มีส่งเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้าไปสอบสวนโรคแล้วว่าการติดเชื้อมาจากไหน แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าทางเรือนจำได้จัดสถานที่กักตัวแยกกลุ่มโดยเฉพาะทั้ง 8 คน โดยทางเรือนจำได้จัดสถานที่กักตัวแยกกลุ่มโดยเฉพาะรวมในห้องเดียวกัน ไม่มีบุคคลอื่นร่วมห้อง และไม่มีการเข้า-ออกนอกพื้นที่ และเราไม่เคยปล่อยให้ใครต้องติดเชื้อโควิดหรือนำคนเข้ามาเพื่อให้เกิดการติดเชื้อ ทุกอย่างในเรือนจำมีการควบคุมตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค มีการป้องกันอย่างเข้มงวด