POLITICS

‘ทักษิณ’ ยอมรับ ห่วงเสถียรภาพทางการเมือง มอง ศก.แย่มานาน จะให้แก้ข้ามคืน ยาก

‘ทักษิณ’ ยอมรับ ห่วงเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง มอง เศรษฐกิจแย่มานาน จะแก้ข้ามคืนเป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยความร่วมมือ วิธีคิดไม่ตัน เสนอใช้ ‘จีโทเคน’ สร้างสภาพคล่อง ฟื้นเศรษฐกิจ แนะรัฐเร่งสื่อสาร-สร้างความหวังให้ประชาชน

วันนี้ (17 ก.ค. 68) ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ “ฟังหูไว้หู” ของสำนักข่าวไทย โดยมีนายวีระ ธีรภัทร และ น.ส.ชุติมา พึ่งความสุข เป็นผู้ดำเนินรายการสด ในงาน “ปลดล็อคอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” (Unlocking Thailand’s Future) โดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยพิธีกรถามทักษิณว่า สิ่งที่ได้กล่าวมาทั้งหมดถ้าทำสำเร็จจะทำให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักหรือไม่ โดยนายทักษิณ กล่าวว่า ต้องเอาเงินใหม่เข้าประเทศเยอะ ๆ เมื่อเงินสะพัด เงินใช้สอย เศรษฐกิจก็จะดี สมัยที่ตนหาเสียงไทยรักไทยมีแต่คนขายไม่มีคนซื้อ หลังจากที่เราแก้ปัญหาหนี้ได้ สร้างโอกาสใหม่ หลังจากนั้นขายดี แต่ในครั้งนี้เป็นโชคดี และโชคร้าย คือเศรษฐกิจแย่ โครงสร้างทางเศรษฐกิจเสียหายเยอะ แต่ดีที่มีเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงมีทางลัดได้หลายอย่าง แต่เราต้องนำมาใช้ให้ได้ เม็ดเงินเราไม่มีโดยตรง เพราะหนี้เยอะ เราสามารถใช้เม็ดเงิน 2 ส่วน ซึ่งส่วนหนึ่งคือเม็ดเงินที่เกิดจากการสร้างเหรียญขึ้นมา เช่น เราเอาหนี้มาทำเป็นสภาพคล่อง เพราะปกติหนี้ไม่ใช่เป็นสภาพคล่อง แต่เราสามารถเอาหนี้มาทำเป็นสภาพคล่องด้วยจีโทเคน ที่กำลังจะออก

เมื่อพิธีกรถามว่า สมมุติว่าหากทำได้ จากที่นายทักษิณพูด จากนี้ไปอีกกี่ปีที่ประเทศไทยจะลืมตาอ้าปากได้ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกอย่างมันแย่มานาน จะให้เสร็จภายในข้ามคืนมันยาก แต่เราก็ต้องเริ่ม ระบบเราช้า ตนได้บอกกระทรวงการคลังว่าเรามาทำจีโทเคนกันหรือไม่ ซึ่งต้องใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะเข้าใจ แล้วเมื่อเข้าใจก็กลัว แต่ไม่ทันใจ ซึ่งสมมุติว่าตนจะเอาหนี้มาขายทั่วไป และในวันนี้พันธบัตรก็ขายสถาบันต่างชาติ เมื่อขายเราก็ให้สั้นหน่อย สมมุติว่าอยากจะไปซื้อรถยนต์ และรถยนต์รับพันธบัตร ซึ่งพันธบัตรต้องเสียภาษี รัฐจะได้อยู่ที่ 7% ถ้าเอาส่วนนี้มาจ่ายดอกเบี้ย 3% จะทำให้เกิดสภาพคล่อง เศรษฐกิจหมุนเวียน

พิธีกรจึงถามอีกว่า จะทำปาฏิหาริย์ให้กลับมาเป็นครั้งที่ 2 จากปี 32 หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ถ้าเราจะทำ แล้ววันนี้เป็นลักษณะของรัฐบาลต้องอาศัยความร่วมมือ ถ้าความร่วมมือมี มันไม่ยาก วิธีคิดเราไม่มีตันเด็ดขาด ฉะนั้น ที่สำคัญที่สุดในวันนี้คือเอาเงินในทุกสภาพเข้ามาใช้ในประเทศไทยให้มากที่สุด

เมื่อถามว่าโมเดลเหมือนเป็นสูตรเดิม มีส่วนผสมอะไรใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่า สูตรเดิมแต่ปรุงใหม่ ยกตัวอย่างเช่น วันนี้รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนไป เราจะดูวัตถุโบราณอย่างเดียวไม่พอแล้ว ก็ต้องสร้างสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นอะไรขึ้นมาบ้าง และที่สำคัญที่สุดคือประเทศไทยเรามีบริการที่ดีที่สุดในโลก เพียงแต่คนเหี่ยวเพราะรายได้ไม่มี ฉะนั้น ต้องให้คนไทยคึกขึ้นมาใหม่ ซึ่งวันนี้คนไทยไม่มีความหวัง เราวันนี้เราต้องเอาความหวังกลับมาให้คนไทย ตนพยายามจะพูดเพื่อให้คนไทยมีความหวัง และไม่เคยมองอะไรยาก แต่บางอย่างต้องใช้เวลา และพยายามขอความร่วมมือ สิ่งที่ตนพูดทำได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรทำไม่ได้

พิธีกรถามว่า อะไรเป็นความเสี่ยงหลักที่ท่านกลัวที่สุดตอนนี้ นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นห่วงเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่อง และบางคนเป็นประเภทแบบนกรู้ รู้ไม่รู้ก็ทำเป็นนกรู้ก่อน ซึ่งจะเกิดการชะงักเล็กน้อย ถ้าการเมืองเกิดการชะงัก การบริหารประเทศก็จะชะงักตาม ฉะนั้น สิ่งที่เป็นปัญหาตอนนี้คือเสถียรภาพทางการเมือง และจริง ๆ แล้วจากผลสำรวจ คนสนใจคำว่าความหวังถึง 62% เพราะเขากังวลเรื่องของความมั่นคงทางการเงินของเขาเองในทุกครอบครัว ส่วนเรื่องการเมืองเหลือ 3% ตอนนี้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่ารัฐบาลอ่อนที่สุดคือการสื่อสารกับประชาชน ที่ตนพยายามช่วยพูดคืออยากช่วยสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจว่างานทำอยู่ และกำลังทำหลายเรื่อง ต้องอธิบายให้เข้าใจแค่นั้นเอง ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้จบ ได้ทำไปบางกรุ๊ปแล้ว แต่วันนี้ถือเงินไว้เพราะเจอภาษีทรัมป์ ถ้าเจอปัญหาขึ้นมาต้องดูว่าทำอย่างไรไม่ให้โรงงานเจ๊ง

เมื่อถามถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในกลุ่มอายุ 16-20 ปีนั้น ทำไมถึงถอดใจไม่ทำต่อ นายทักษิณ กล่าวว่า เงินไม่พอ เราต้องเก็บเงินไว้ เก็บเงินเพื่อแก้ปัญหา ถ้าเราจะเพิ่มเพดานหนี้ก็ได้ แต่ไม่ควรทำ ส่วนเรื่องเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ในเมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาใหม่ 10 กว่าคน ก็ควรให้เขารีวิวหน่อย เพราะเนื่องจากมีคนค้านอยู่จำนวนหนึ่ง ตนสนใจว่ามีหลายกลุ่มของประชาชนที่ไม่เข้าใจยังมีอยู่ และครม. ใหม่ที่เข้ามาเพื่อความเป็นธรรมควรที่รู้ว่าเป็นอย่างไร

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ขณะนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่นั้น ตอนนี้ได้แล้ว รอเอาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันอังคารที่จะถึงนี้ ซึ่งตนไม่รู้เรื่อง รู้เพียงแค่ว่าจะนำเข้า ครม.วันอังคารที่ผ่านมา แต่บังเอิญมีเรื่องของการตรวจสอบประวัติให้เรียบร้อยก่อน จึงต้องนำเข้า ครม. วันอังคารที่จะถึงนี้ แต่จะมีการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อจะเป็น ว. หรือ ร. นั้น ต้องถามนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ​ สำหรับเรื่องการลงทุนต่าง ๆ นั้น หากคุณเป็นเจ้าของบริษัท แล้วคุณไม่มีความมั่นใจบริษัทตนเอง แล้วจะให้ใครมาลงทุน ดังนั้น หากคุณมีสภาพคล่อง คุณต้องทำการซื้อหุ้นคืน แล้วคุณบอกคุณมีความสามารถในการทำให้บริษัทโต คุณต้องซื้อ โดยวันนี้รัฐวิสาหกิจจะเริ่มซื้อหุ้นของตัวเองแล้ว เพราะเขามั่นใจว่าตัวเองยังดีอยู่ และตอนนี้เราเพิ่งเวฟเรื่องภาษีอยู่ เพิ่งจะเริ่ม ยังไม่ได้ซื้อจนจะหมดเงิน

Related Posts

Send this to a friend