POLITICS

‘ภาคีพสกนิกรปกป้องสถาบัน’ ไล่แอมเนสตี้พ้นประเทศไทย เหตุสนับสนุนม็อบราษฎร

‘ภาคีพสกนิกรปกป้องสถาบัน’ ไล่แอมเนสตี้พ้นประเทศไทย เหตุสนับสนุนม็อบราษฎร ยื่นหนังสือถึงก.แรงงาน-ก.มหาดไทย หยุดต่อใบอนุญาต ‘แรมโบ้’ เชื่อหลักฐานแน่น เร่งหน่วยงานรัฐดำเนินการ

วันนี้ (17 ก.พ. 65) ภาคีพสกนิกรปกป้องสถาบัน ประกอบด้วย 8 องค์กร ได้แก่ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบัน กลุ่มประชาพัฒน์พิทักษ์สถาบัน กลุ่มปฏิบัติการพิเศษศรีสุริโยไท ภาคีประชาชนปกป้องสถาบันฯ เพจเชียร์ลุง ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) และเครือข่ายหมู่บ้านเสื้อแดงรักษาพระองค์ รวมตัวยื่นหนังสือถึงตัวแทนกระทรวงแรงงาน ที่อาคารสำนักงานพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ทำเนียบรัฐบาล ปราศรัยถึงเหตุผลที่จำเป็นต้องขับไล่องค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ออกจากประเทศไทยและเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐไม่ต่อใบอนุญาต รวมถึงยื่นหนังสือค้านการต่อใบอนุญาตให้ผู้แทนกระทรวงแรงงานด้วย

ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองเป็นหนึ่งในภาคประชาชนที่ประกาศจุดยืนปกป้องสถาบัน ปกป้องบ้านเมือง โดยเฉพาะจากกลุ่ม NGO บางกลุ่ม โดยย้ำว่าไม่ใช่ NGO ทุกกลุ่ม อีกบางกลุ่มเขาก็ดี แต่กลุ่มแอมเนสตี้นี้ไม่ไหวจริงๆ เห็นพฤติกรรมที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง เกี่ยวข้องกับกลุ่มสามกีบ สามนิ้ว คณะราษฎรที่มีการแสดงออกที่ก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้นหลังจากนี้ภาคราชการต้องว่ากันไปตามหลักฐานข้อเท็จจริง ว่าการดำเนินงานของแอมเนสตี้เป็นไปตามข้อกำหนด ตามระเบียบที่เคยได้จดทะเบียนไว้หรือไม่ หรือมีการกระทำใดขัดต่อกฎหมาย เป็นหน้าที่ที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้พิสูจน์ตามที่ภาคประชาชนได้เข้าชื่อกว่า 1,200,000 รายชื่อ เพื่อพิสูจน์ว่าคนไทยไม่เอาองค์กรนี้และพิสูจน์ตามหลักฐานที่แนบไปว่าการดำเนินงานขององค์กรไม่เป็นกลาง เป็นไปเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน หรือขัดตามเจตนารมณ์ที่ได้ยื่นขอจดทะเบียนไว้ ถ้าพบว่าหลักฐานเป็นไปตามที่ภาคประชาชนยื่นจะขอให้ทำตามข้อเสนอของภาคประชาชนด้วย

ผู้สื่อข่าวสอบถามหลังแอมเนสตี้แถลงว่าพร้อมตอบคำถามรัฐบาลเกี่ยวกับการทำงาน ดร.เสกสกล ตอบว่า เป็นสิทธิของเขาที่จะแก้ตัว แต่เรามีหลักฐานชัดเจนว่าเขาไปร่วมกับ สามกีบ สามนิ้ว กับม็อบ มีการโพสต์เชียร์กลุ่มเขา ปกป้อง เรามีหลักฐานทั้งหมด ปกป้องกลุ่มที่มีการจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบัน การไปร่วมชุมนุม ไปร่วมกิจกรรม แสดงท่าที เรามีหลักฐานทั้งหมด โกหกกันไม่ได้

“..ผมมั่นใจเพราะเราดำเนินการด้วยภาคประชาชนและหลักฐานข้อเท็จจริง ในการทำผิดระเบียบของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เราเหล่านี้คงเปิดโต๊ะเจรจาไม่ได้ ใครที่ก้าวล่วงจาบจ้วง ขนาดแกนนำบางคนยังโดนคดี 112 เลยครับ แล้วแอมเนสตี้มีสิทธิอะไร มีหน้าที่อะไร ที่จะไปร่วมสนับสนุน ดังนั้นหลักฐานชัดเจน กฎหมายจะเจรจาไม่ได้ กฎหมายความมั่นคงมีบทลงโทษหนัก ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย…” ดร.เสกสกล กล่าว

โดยหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มภาคีพสกนิกรปกป้องสถาบัน เคลื่อนขบวนไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมการปกครองให้พิจารณาประเด็นดังกล่าวด้วย

Related Posts

Send this to a friend