‘จุลพันธ์’ อาสาทำภารกิจช่วยคนไทยไร้จน ประกาศสาน 2 นโยบายหวยเกษียณ – ล้างหนี้ แก้วิกฤติเศรษฐกิจ
ชี้ แก้หนี้ประชาชนไม่ใช่การแจกเงิน-ประชานิยม แต่คือการซ่อมฐานรากประเทศ ย้ำ สโลแกนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
วันนี้ (16 ธ.ค. 68) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวในงานเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ในแคมเปญ “ยกเครื่องประเทศไทย เพื่อไทยทำได้” หลังได้รับการเสนอชื่อให้เป็น 1 ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ว่า วันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่ตนเองได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วันนั้นตนเองไม่ได้รับเพียงแค่ตำแหน่ง ตนเองรับเอาความคาดหวังที่ พรรคเพื่อไทยจะต้องกลับมาแข็งแรง ต้องกลับมาเป็นความหวังให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยอีกครั้งหนึ่ง ระยะเวลาเพียงเดือนเศษเราไม่ได้พูดถึงการเปลี่ยนแปลง แต่เราทำให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง เรามีการยกเครื่องในการสื่อสารที่มีความรวดเร็ว ฉับไว และเป็นการสื่อสารเชิงรุก เรามีการทำงานในสภาที่เข้มแข็งตรวจสอบอย่างจริงจัง ไม่มีการเกรงใจ เรามีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่ประกอบไปคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกภูมิภาคเรามีทีมงานในส่วนของคณะกรรมการนโยบาย ซึ่งรับฟังทั้งเสียงนักวิชาการ และเสียงของประชาชนตัวจริง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้โดยพวกเราทุกคน พวกเรามีความเชื่อในเป้าหมายเดียวกัน พวกเรามีหัวใจดวงเดียวกันหัวใจดวงนั้น คือประชาชน
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า 25 ปีที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยไม่เคยละทิ้งประชาชน วันนี้ตนเองยืนอยู่ตรงนี้ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อบอกกับพวกเราทุกคนว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว พร้อมจัดการยกเครื่องพรรคสู่ภารกิจที่ใหญ่กว่าคือการยกเครื่องประเทศไทย “ผมจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ตนเองเข้าสู่การเมือง20 ปีที่แล้ว ตนเองได้โอกาสจากพรรคเพื่อไทยได้เป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ชายขอบ แต่เป็นคนมีโอกาสกว่าคนทั่วไปได้จบการศึกษาปริญญาตรีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสเรียนต่อ MBA ที่สหรัฐอเมริกา ได้มีโอกาสทำงานที่สหรัฐอเมริกาอยู่ที่นั่นหลายปี ตนทำงานในบริษัทเทคโนโลยีอวกาศ และความมั่นคงระดับโลก ตนเองผ่านประเทศที่เจริญที่สุด และกลับมาใช้ชีวิตในชนบทกับพี่น้องประชาชนได้เห็นความมั่งคั่งสุดขีด และเห็นความทุกข์ยากอย่างถึงที่สุดของประชาชนเช่นเดียวกัน สองภาพนี้ทำให้ความฝันของตนเองชัดเจน ฝันที่จะใช้ความรู้ทางด้านเศรษฐกิจมาปลดโซ่ตรวนชีวิตให้กับประชาชนคนไทย ทำงานต่อเนื่องตั้งแต่ตำแหน่ง สส. ไปเป็นกรรมาธิการด้านการเงินการคลัง ไปเป็นกรรมาธิการด้านการเกษตร ด้านเศรษฐกิจไปเป็นกรรมาธิการงบประมาณจน กระทั่งมาถึงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังตลอด 2 ปีในตำแหน่งรัฐมนตรี ตนเองได้มีโอกาสทำตามความฝันคือการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนไปมากมาย แต่แน่นอนว่า มีทั้งอุปสรรค มีทั้งแรงเสียดทานแต่เราไม่เคยหยุด และเราจะเดินหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็ง วันนี้ตนเองมาเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพียงเพื่อความฝันของตัวเองแต่มาขอความไว้วางใจจากประชาชน เพื่อทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่คือการทำให้คนไทยไร้จน หลุดพ้นจากความยากจนอย่างถาวร
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยต้องการสร้างพรุ่งนี้ที่ดีกว่า โดยการสร้างหลักประกันเงินออมการปลดหนี้ และสร้างรายได้ใหม่ เพราะนิยามประชาชนในสังคมประชาธิปไตยคือ ความมั่นคง อิสรภาพ และโอกาสของประชาชน นี่ตรงกันกับความคิดของพรรคเพื่อไทยที่ว่ามีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ความปรารถนาของตน คือคนไทยต้องไร้จน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่วันนี้พี่น้องประชาชนจำนวนมากยังคงประสบความลำบากทางเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น รายได้กลับลดลง ของกิน ของใช้ ค่าน้ำ ค่าไฟค่า เดินทางเพิ่มไม่หยุด พี่น้องเกษตรกรราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แต่ต้นทุนเพิ่มขึ้นยอดขายผู้ประกอบการลดลง แต่ต้องแบกรับอัตราดอกเบี้ยที่สูง ต้นทุน ค่าเช่าพุ่งไม่หยุดประชาชนคนไทยหนี้สินล้นพ้นตัว ทั้งหนี้ของบัตรเครดิต หนี้การศึกษา หนี้ ธกส. หนี้นอกระบบ เราพูดกันตลอดว่า ประเทศไทยเราเข้าสู่สังคมสูงวัย แต่คนไทยแก่ก่อนรวย ผู้สูงอายุจำนวนมากไม่มีหลักประกันในชีวิต ไม่มีเงินออม รายได้ หลังเกษียณต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น หลังเกษียณหลายครอบครัวต้องเลือกระหว่างการจ่ายหนี้ กับคุณภาพชีวิต
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เอาตัวเลขเศรษฐกิจมาพูดกับทุกท่าน เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจไม่อาจสะท้อนคราบน้ำตา ไม่อาจสะท้อนเอาความเครียด ความลำบาก ความสิ้นหวัง ความไม่มั่นคงในชีวิตของประชาชนคนไทยได้มีคำถามที่ดังขึ้นเรื่อยๆว่าพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้หรือไม่ นี่คือโจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
วันนี้จึงมาเสนอ 2 นโยบายเร่งด่วนที่สามารถทำได้ทันที นโยบายเร่งด่วนแรก คือหวยเกษียณ ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่สานต่อ พวกเราจะทำให้ได้ภายใน 3 เดือนแรกของการเป็นรัฐบาล คนไทย 34 ล้านคนยังคงซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง วันที่ 1 และ 16 ยังเป็นความหวังของคนไทยจำนวนมาก แต่ด้วยหวยเกษียณเงินทุกบาทจะไม่หายไป จะกลายเป็นเงินออม เราไม่ต้องการปรับพฤติกรรมการเสี่ยงโชคของประชาชนคนไทย แต่เราต้องการให้ผู้สูงอายุมีเงินก้อนในยามแก่ชรา เพื่อไปเสริมกับเบี้ยยังชีพ กับสวัสดิการประเภทอื่นๆ ถ้าเลือกได้เชื่อว่าไม่มีผู้สูงอายุไหนที่อยากเป็นภาระ ต้องพึ่งพาลูกหลาน เมื่อเราสามารถทำหวยเกษียณ สร้างความมั่นคงให้กับสูงอายุในด้านการเงิน สุดท้ายนั่นคือการปลดล็อคอิสรภาพทางการเงินให้กับลูกหลานท่านเอง
“หวยเกษียณจึงเป็นการเปลี่ยนการเสี่ยงโชคสู่หลักประกัน หวยเกษียณจึงเป็นการเปลี่ยนความหวังระยะสั้นให้เป็นความมั่นคงในระยะยาว”
อีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วน คือ การล้างหนี้ให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย ปัญหาหนี้ของคนไทยไม่ใช่ปัญหาส่วนบุคคลอีกต่อไป นี่คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฉุดรั้งชีวิตประชาชน ที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยไม่ให้เจริญเติบโต ตลอด 2 ปีของการเป็นรัฐบาล รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องมายังรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เราได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้พรรคหนี้เกษตรกร แก้หนี้นอกระบบ เติมสภาพคล่องไปจนถึงค้ำประกันสินเชื่อ รวมถึงงานสร้างอาชีพ เราช่วยประชาชนไปแล้ 6 ล้านราย ลดภาระหนี้ไปแล้ว 400,000 ล้านบาท เราไม่เคย และเราจะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินแต่เพียงลำพัง พี่น้องประชาชนหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเราจะสานต่อนโยบายล้างหนี้ดังนี้
กลุ่มแรก คือ หนี้นอกระบบ เราจะให้สินเชื่อรายละ 50,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักประกัน เพื่อให้ท่านไปปิดหนี้นอกระบบเพราะเรารู้ว่าหนี้นอกระบบไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่คือความรุนแรง มันคือการข่มขู่ การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เราต้องการคืนอิสรภาพจากความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชาชน
กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่เป็นหนี้เสีย NPL ทำให้รายได้ทั้งหมดกลายเป็นดอกเบี้ย ทำให้ประชาชนขาดโอกาส ประเทศติดหล่ม จะดีหรือไม่หากรัฐบาลของเพื่อไทยจะทำให้คนเป็นหนี้เสียไม่เกิน 200,000 บาท จ่ายเพียงแค่ 10% หรือไม่เกิน 20,000 บาทแล้วกลบหนี้ของท่านออกไปได้ นี่ไม่ใช่ให้การปลดหนี้ประชาชน แต่เป็นการปลดล็อคประเทศทางเศรษฐกิจ
กลุ่มที่สาม คือ กลุ่มเกษตรกรพี่น้องเกษตรกรเผชิญกับความผันผวนทางด้านราคา ภัยธรรมชาติ พรรคเพื่อไทยเราเสนอตัวที่จะพักหนี้ให้พี่น้องเกษตรกร ทั้งพักเงินต้นและดอกเบี้ย 3 ปีในวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อต่ออายุ ต่อลมหายใจให้กับพี่น้องเกษตรกรอีกครั้งหนึ่ง
กลุ่มที่สี่ คือ ผู้สูงอายุวัยเกษียณ เราอยากให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างมั่นคง ผู้สูงอายุต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดการพึ่งพาลูกหลานทางด้านการเงิน เราจะปลดหนี้เสียให้กับผู้สูงวัยในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท นี่คือการปลดหนี้เสียให้ผู้สูงอายุ คืนความสุขในบั้นปลายให้กับคนไทยทุกคน
กลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มที่เป็นลูกหนี้ดี ชำระตรงจ่ายตรงครบทุกงวด คนเหล่านี้ควรได้รับรางวัลเช่นเดียวกัน พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการหากท่านผ่อนดีครบ 1 ปี เราจะจ่ายให้ฟรี 1 งวดสำหรับยอดเงินไม่เกิน 100,000 บาท การแก้หนี้ประชาชน ไม่ใช่การแจกเงิน ไม่ใช่ประชานิยม แต่คือการซ่อมฐานรากของระบบเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้เราสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
“เพราะตัวเลขทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวไม่อาจสะท้อนความเดือดร้อน ความเหลื่อมล้ำ ความลำบาก ของพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยจะทำพรุ่งนี้ที่ดีกว่าให้ พรรคเพื่อไทยจะต้องทำให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ผมย้ำอีกครั้ง นี่คือนิยามของคำว่าประชาชนในระบอบประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะยกเครื่องประเทศไทยเพราะมีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ทำได้ ผมจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย“












