ทีม ‘วันนอร์’ รอ ‘ฮามาส’ แจ้งปล่อยตัวประกันคนไทย เชื่ออีกไม่กี่วันมีข่าวดี
ทีม ‘วันนอร์’ รอ ‘ฮามาส’ แจ้งปล่อยตัวประกันคนไทย เชื่ออีกไม่กี่วันมีข่าวดี หลังโลกบีบอิสราเอลหยุดยิง ปัดก้าวก่ายฝ่ายบริหาร แต่มุสลิมคุยกันมีน้ำหนักกว่า ย้ำห่วงแรงงานที่ยังอยู่ในพื้นที่
วันนี้ (16 พ.ย. 66) เวลา 11:30 น. คณะทำงานของประธานรัฐสภา ร่วมแถลงข่าว ณ อาคารรัฐสภา ภายหลังคณะเจรจาปล่อยตัวกระกันชาวไทย หารือกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ณ อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับกุมชาวไทย ในสถานการณ์ความไม่สงบอิสราเอล-กาซา
นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ยอมรับว่า ติดตามอย่างใจจดใจจ่อว่า คนไทยที่ถูกจับกุมตัวไปนั้น จะได้รับการปล่อยตัวเมื่อใด จากการประสานงานมาตลอดนั้น ก็มีความสบายใจว่า คนไทยยังปลอดภัยอยู่ แม้ว่า ณ วันนี้มีการยิงจรวดและถล่มระเบิดอยู่ตลอดเวลา ยังไม่มีการหยุดยิงอย่างใดเลย และมีเครื่องมือในการติดตามตรวจสอบอยู่ แต่ฮามาสพร้อมส่งคนไทยกลับมาทันทีที่สถานการณ์มีความปลอดภัย
นายมุข ย้ำว่า แนวทางที่เป็นไปได้ที่สุด คือ การขอหยุดยิงระยะหนึ่ง จึงขึ้นอยู่กับทางอิสราเอลว่าจะยอมรับให้หยุดยิงหรือไม่ แม้ที่ผ่านมาอิสราเอลยังไม่หยุดยิง แต่ปัจจุบันโอกาสการหยุดยิงนั้นมีสูงขึ้น เพราะทั้งโลกกำลังบีบอิสราเอล ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะมีการปล่อยตัวเร็ว ๆ นี้ แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่า จะปล่อยตัวเมื่อใดและผ่านช่องทางใด ยืนยันว่า คนไทยปลอดภัย โดยเฉพาะหากญาติพี่น้องได้ฟัง ก็จะคลายความกังวลใจได้ระดับหนึ่ง
“ถ้าคนอื่นหาว่าเราก้าวก่ายฝ่ายบริหาร เราไม่คิดอย่างนั้น ก็ร่วมด้วยช่วยกัน จึงอยากให้พี่น้องชาวไทยกลับมา จะเห็นว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตยังไม่นิ่ง เพราะสงครามยังเกิดขึ้น มีโอกาสตาย มีโอกาสถูกจับ จึงอยากให้กลับมาก่อน เพราะอันตราย” เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว
นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า เมื่อประธานรัฐสภาทราบข่าวดีแล้ว ก็สบายใจระดับหนึ่ง แต่ยังต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป เมื่อใดอิสราเอลหยุดยิงตามมติสหประชาชาติ ฮามาสอาจหาช่องทางที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อปล่อยตัวประกัน
ด้าน ดร.เลอพงษ์ ซาร์ยีด นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน ในฐานะหนึ่งในคณะเจรจาฯ ตามดำริของประธานรัฐสภา และผู้นำสูงสุดชีอะห์แห่งประเทศไทย เพื่อร่วมพูดคุยหารือปล่อยตัวชาวไทยที่ถูกจับกุม กล่าวเสริมว่า ฮามาสแถลงว่า อิสราเอลถล่มสถานที่ต่าง ๆ อย่างไม่เลือกที่ ทั้งโรงพยาบาล มัสยิด และค่ายผู้ลี้ภัย จึงเกรงว่าจะกระทบต่อชีวิตของเชลยศึกที่จับตัวไป เพราะการถล่มทำให้เชลยศึกประเทศอื่นเสียชีวิตไปจำนวนหนึ่งแล้ว
ดร.เลอพงษ์ กล่าวต่อไปว่า นานาประเทศโดยองค์การสหประชาชาติ มีมติให้อิสราเอลหยุดยิงชั่วคราว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันหรือเชลยศึก และลำเลียงความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม แม้ครั้งแรกสหรัฐอเมริกา อิสราเอล และชาติพันธมิตร 12 ชาติปฏิเสธไม่หยุดยิง แต่ต่อมาสหประชาชาติมีมติให้หยุดยิง 72 ชั่วโมง และอิสราเอลตอบรับ จึงมีการรายงานข่าวว่า จะมีการปล่อยตัวเชลยศึกชาวอิสราเอลและต่างประเทศประมาณ 50 คน ซึ่งทางคณะทำงานประธานรัฐสภา ประสานว่า 50 คนนี้ขอให้เป็นคนไทยทั้งหมด
ส่วนแรงงานไทยที่ถูกจับกุม ดร.เลอพงษ์ เปิดเผยว่า ยังได้รับการยืนยันความปลอดภัยตามจำนวน 25 คน นอกเหนือจากนั้น ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตหรือไม่ เนื่องจากรายงานจำนวนอาจคลาดเคลื่อนได้ เพราะอาจมีกลุ่มอื่นที่จับกุมไปด้วย
การคาดการณ์ของ ดร.เลอพงษ์ คือ คาดหวังว่าจะมีการปล่อยตัวประกันไทยในอีกไม่กี่วัน ไม่น่าเกิน 10 วัน หรืออาจ 2-3 วันนี้ แม้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าจะปล่อยตัวจุดไหน แต่ตอบรับว่าจุดผ่านแดนราฟาห์ ประเทศอียิปต์ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือก โดยการตัดสินใจจะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
“สำหรับคนไทยไม่มีเงื่อนไข เงื่อนไขเดียวคือความปลอดภัย” ดร.เลอพงศ์ กล่าว
ข้อสำคัญข้อหนึ่งที่ ดร.เลอพงษ์ หยิบยกขึ้นมาแถลงคือ ฮามาสมองว่า ประธานรัฐสภา และผู้นำชีอะห์แห่งประเทศไทย ล้วนเป็นมุสลิม การเจรจาที่ดำเนินการตั้งแต่เริ่มสงครามจึงมีน้ำหนักและตรงมากกว่า ฮามาสยังยืนยันว่า แรงงานต่างชาติและแรงงานไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง แต่ด้วยแรงงานต่างชาติทำงานในพื้นที่ชายแดนนั้นจึงถูกจับกุมไปด้วย เพราะถือว่ารุกรานดินแดน หลังจากนี้ หากมีการปล่อยตัวขึ้นมา ฮามาสก็จะแจ้งคณะเจรจาของเราก่อน คณะของเราเป็นกลุ่มเดียวของทางการไทยที่มีการเจรจากับฮามาสโดยตรง
นอกจากนี้ ดร.เลอพงษ์ ยังกล่าวว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลไทย ที่ให้อพยพแรงงานไทยที่เหลือ 20,000 คนกลับบ้าน แต่ไม่เข้าใจว่า เหตุใดแรงงานที่เหลืออยู่จึงยังไม่กลับ ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตก็ยังเพิ่มขึ้น จึงสะท้อนว่า ความมั่นคงหรือระบบป้องกันภัยของอิสราเอลยังไม่ปลอดภัย อิสราเอลเองก็ปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตไว้คงที่ 1,400 ราย จึงอยากให้คนไทยกลับมา เพราะจุดที่คนไทยอยู่ตรงนั้น โอกาสเสียชีวิตยังมีอยู่












