POLITICS

‘เกียรติ’ ชี้ นายกฯ – ครม. ชี้แจงเงินดิจิทัลไม่ตรงกัน กระทบความน่าเชื่อถือรัฐบาล

‘เกียรติ’ ชี้ นายกฯ – ครม. ชี้แจงเงินดิจิทัลไม่ตรงกัน กระทบความน่าเชื่อถือรัฐบาล ย้ำต้องชี้แจงในสภาให้ชัดว่าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจอย่างไร จี้ กกต.ควรชัดเจน พรรคการเมืองทำนโยบายไม่ตรงกับที่หาเสียงผิดหรือไม่

วันนี้ (16 พ.ย. 66) นายเกียรติ สิทธีอมร คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สิ่งที่เลขาธิการนายก และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า หาก พ.ร.บ.เงินกู้ไม่ผ่าน ยังไม่มีแผนสำรอง แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กลับบอกว่ามีแผนสำรอง แต่ยังไม่บอก เรื่องนี้สะท้อนว่าการให้ข้อมูลของนายกฯ และคนใน ครม. ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กระทบต่อความน่าเชื่อถือ

นายเกียรติ กล่าวว่า แม้วิธีออกกฎหมายจะเป็นวิธีที่ถูกต้องที่สุด แต่กฎหมายต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเฉพาะที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คือต้องเข้าข่ายกรณีจำเป็นเร่งด่วน เมื่อมีวิกฤติ และต้องทำอย่างต่อเนื่อง เป็นเงื่อนไขที่ระบุไว้ชัดเจนใน พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ดังนั้น รัฐบาลต้องชี้แจงในสภาให้ชัดเจนว่าประเทศมีวิกฤติเศรษฐกิจอย่างไร และเหตุใดออกเป็น พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีไม่ได้ เพราะการจะออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ ต้องพิจารณาในเงื่อนไขของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่ระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน ไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณประจำปีได้

นอกจากนี้ มาตรา 57 ซึ่งผูกโยงไปถึงมาตรา 53 และมาตรา 56 ที่ระบุว่า การกู้เงินจะทำได้เฉพาะ เพื่อใช้จ่ายตามแผนงานหรือโครงการที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ หรือสังคมเท่านั้น ดังนั้น การพิจารณา พ.ร.บ.เงินกู้ จะผ่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคำชี้แจงของรัฐบาล แต่จนถึงวันนี้ยังคงเป็นคำถามเดิมที่มีตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว และรัฐบาลก็ยังมีคำตอบที่ไม่ชัดเจน

นายเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อกฎหมายเขียนไว้อย่างนี้ กฤษฎีกาจะตีความเช่นเดียวกันว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องอธิบายถึงความคุ้มค่า ความจำเป็นเร่งด่วน และชี้แจงว่าประเทศมีวิกฤติทางเศรษฐกิจอย่างไร ทั้ง ๆ ที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยไม่ได้หยุดชะงัก ไม่ได้ติดลบ ตามการวิเคราะห์ของนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศที่เห็นตรงกันว่าประเทศไทยไม่ได้กำลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ จริงอยู่ที่ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ต้องโตด้วยการปรับโครงสร้าง ไม่ใช่โตด้วยการกระตุ้นให้ใช้เงิน ควรเริ่มจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ ตั้งแต่ค่าไฟ น้ำมัน และก๊าซ เพราะเห็นได้ชัดว่าขณะนี้เป็นโครงสร้างที่บิดเบือนมาก ทำให้ประชาชนต้องแบกภาระ แต่ผู้ประกอบการบางรายกลับได้กำไรเกินควร ซึ่งการปรับโครงสร้างพลังงานเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใช้เงินงบประมาณ แต่ได้ผลทางเศรษฐกิจมากกว่า 5 แสนล้าน

นายเกียรติ ยังชี้ให้เห็นว่า นโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงจะต้องยื่นต่อ กกต. รวมถึงต้องระบุให้ชัดเจนถึงแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในนโยบายที่ใช้หาเสียงด้วย แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำไม่ตรงกับสิ่งที่ยื่นไว้ต่อ กกต. ทำให้เกิดปัญหาตามมาว่า เมื่อพรรคการเมืองใดมาเป็นรัฐบาลแล้วหากสามารถทำเช่นนี้ได้ จะทำให้พรรคการเมืองทุกพรรคหมดความน่าเชื่อถือ เพราะเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วสามารถทำในสิ่งที่ไม่ตรงกับที่เคยยื่นไว้ต่อ กกต. ได้ ดังนั้น กกต.ควรต้องออกมาชี้แจงด้วยว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าพอเป็นรัฐบาลก็จะเปลี่ยนเงื่อนไขอะไรก็ได้

Related Posts

Send this to a friend