POLITICS

เครื่องบินกองทัพอากาศนำส่งคนไทย 130 คน ถึงมาตุภูมิเป็นเที่ยวแรก

‘สุทิน’ ให้กำลังใจบอกรอดตายแล้ว ยอมรับสถานการณ์ในอิสราเอลยังอันตราย คาดช่วยได้ 6,000 คนในสิ้นเดือนนี้ จ่อปรับแผนรับออกมาพักประเทศที่สามก่อน

วันนี้ (16 ต.ค. 66) เวลา 06:51 น. อากาศยานกองทัพอากาศ เที่ยวบินที่ A345 ที่นำคนไทยจำนวน 130 คน เดินทางมาจากท่าอากาศยานนานาชาติ Ben Gurion อิสราเอล เดินทางถึงท่าอากาศยานกองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพมหานครด้วยความสวัสดิภาพ พร้อมลูกเรืออีก 40 คน โดยมี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ เป็นผู้ให้การต้อนรับ

นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นการปฏิบัติภารกิจในรอบแรกของกองทัพอากาศในการนำส่งคนไทยจากอิสราเอล ซึ่งตอนแรกแจ้งว่าจะกลับ 138 คน แต่กลับจริงเพียง 130 คน ที่หายไป 8 คนนั้นกำลังตรวจสอบเหตุผล แต่เข้าใจได้ว่าการเดินทางภายในประเทศเพื่อมาสนามบินยังเป็นไปด้วยความยากลำบากหรือส่วนหนึ่งอาจลังเลเปลี่ยนใจ ตอนนี้ได้รับทราบว่ามีผู้เจ็บไข้เล็กน้อยประมาณ 4 คน ที่เหลือปลอดภัยแข็งแรงดี และจากนี้ไปจะนำไปตรวจร่างกายที่สถาบันบำราชนราดูร ได้พบกับญาติ และเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป โดยกองทัพอากาศจะเดินทางไปรับคนไทยอีกครั้งในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ รวมจะมีการปฏิบัติอีกประมาณ 5 เที่ยวบิน คาดจะสามารถนำส่งได้ประมาณ 800 คน ซึ่งยังถือเป็นจำนวนไม่มาก ต้องเติมด้วยเที่ยวบินพาณิชย์และมาตรการอื่นที่รัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่

ส่วนเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางมาขึ้นเครื่องบินของคนไทยมีความผ่อนคลายมากขึ้นหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังคงมีอุปสรรคอยู่เยอะ โดยเฉพาะสถานการณ์สู้รบ เมื่อวานได้รับรายงานจากทูตไทยในอิสราเอลว่ายังมีการยิงจรวจโจมตีกันอยู่เสมอ จึงต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง เพราะเป้าหมายคือต้องให้ทุกคนเดินทางกลับมาด้วยความปลอดภัย โดยกระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตไทย พยายามเจรจาเปิด พื้นที่ปลอดภัยสำหรับอพยพประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งให้กลับภูมิลำเนา และทางกองทัพได้ส่งบุคลากรไปช่วยเหลือในการขนย้ายและประสานงานอยู่โดยตลอด โดยคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้จะมีคนไทยเดินทางกลับมาได้ประมาณ 6,000 คนตามแผนปัจจุบัน

นายสุทิน เผยว่า รัฐบาลกำลังพิจารณาแผนสำรองหากสถานการณ์ภายในอิสราเอลตึงเครียดมากขึ้น อาจมีการพิจารณานำเครื่องบินที่ทำการบินได้ในระยะไม่ไกลมาก เข้าไปรับประชาชนในอิสราเอลมาพักไว้ในประเทศที่สาม ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์อันตราย ก่อนจะอพยพกลับมาในประเทศไทยต่อไปด้วย

หลังจากนั้นประชาชนไทยที่เดินทางกลับมาได้ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง ตรวจร่างกายเบื้องต้น และมีเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน เปิดโต๊ะรับ คำร้องขอความสงเคราะห์เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อพิจารณามอบเงินช่วยเหลือรายละ 15,000 บาท

ก่อนที่ทั้ง 130 คน จะเดินทางไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่สถาบันบำราศนราดูลและพบกับญาติที่มารอรับ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มากล่าวให้กำลังใจเป็นภาษาอีสาน เรียกขวัญให้กลับมา พร้อมรับกลับสู่ประเทศไทย และยังกล่าวถึงความตั้งใจของทุกหน่วยงานที่ต้องการช่วยเหลือคนไทยที่ยังติดค้างอยู่ในประเทศอิสราเอล

“มาเน้อขวัญเน้อ มาเด้อขวัญเน้อ เอาขวัญเมื่อบ้าน หมดทุกข์หมดโศกแล้ว รอดตายแล้ว เดี๋ยวกลับบ้าน พี่น้องชาวเหนือก็เหมือนกัน พี่น้องชาวใต้ก็ไม่ต่างกัน ถือว่าเรารอดตายแล้ว ก็ขอให้ขวัญดี มีกำลังใจต่อไป” นายสุทิน กล่าว

ตัวแทนกลุ่มแรงงานไทยในอิสราเอล กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยอย่างปลอดภัย ในวันที่เกิดเหตุตนต้องเอาตัวรอดหลบอยู่ในแคมป์คนงาน เพราะกลุ่มฮามาสเข้ามาโจมตี โดยต้องขอขอบคุณสถานทูตไทยในอิสราเอลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือและประสานงานจนสามารถเดินทางกลับมาได้ โดยแรงงานส่วนมากเข้าไปทำงานในภาคการเกษตรในพื้นที่ใกล้กับฉนวนกาซา ส่วนหนึ่งคิดว่าจะไม่เดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอลแล้ว แม้การไปครั้งนี้เพื่อทำงานปลดภาระหนี้สิน แต่ก็หวาดกลัวสงคราม จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือหาแหล่งงานใหม่เพื่อให้ได้กลับมาตั้งตัว ชดใช้หนี้สิน

Related Posts

Send this to a friend