‘อนุทิน’ ย้ำ โควตาเดิม ภูมิใจไทย 4 ว่าการ 4 ช่วย พร้อมเสนอ ‘ภราดร’ นั่งรองประธานสภา
‘อนุทิน’ ขออย่ามอง ‘แพทองธาร’ นั่งนายกฯ ทั้งที่อายุยังน้อยเพราะ ‘อภิสิทธ์-สนธยา’ ก็เป็นนรัฐมนตรีตอนอายุ 30 ย้ำ โควตาเดิม ภูมิใจไทย 4 ว่าการ 4 ช่วย พร้อมเสนอ ‘ภราดร’ นั่งรองประธานสภา
วันนี้ (16 ส.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าวันนี้ 71 เสียงของพรรคภูมิใจไทยจะโหวตให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไม่มีแตกแถว และเมื่อวานได้มีการแถลงข่าวร่วมและยืนยันอย่างชัดเจนแล้ว ว่าจะสนับสนุนนางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านางสาวแพทองธาร จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ยังไม่มีการหารือกันในประเด็นนี้ แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินต่อไป เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างจะเป็นไปตามไทม์ไลน์ พรรคภูมิใจไทยต้องสนับสนุนซึ่งกันและกันในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายของพรรคมีอะไร ยิ่งตอนนี้มีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็ต้องมีการร่าง นโยบาย เพื่อให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่แถลงต่อรัฐสภา ซึ่งพรรคภูมิใจไทยหลังจากลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีวันนี้ จะประชุมภายในพรรคตั้งทีมงานเพื่อจะไปร่วมร่างนโยบายกับพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะดันนโยบายมีเรื่องกัญชาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อะไรที่ค้างคาไว้และยังไม่เคลียร์จากการทำงานที่ผ่านมา เราก็พยายามที่จะทำให้เกิดความชัดเจน ซึ่งเราทำงานกันมาปีกว่า มีการรับฟังซึ่งกันและกัน อะไรก็ตามที่ไปดำเนินการไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ต้องชี้แจง อย่างกรณีอดีตนายกฯ นายเศรษฐา ทวีสิน ก็ตัดสินใจ ว่ากัญชายังไม่ต้องกลับไปเป็นยาเสพติด ให้ออกเป็นกฎหมายควบคุม ซึ่งท่านก็ฟันธงให้เห็น ถือเป็นความร่วมมือที่แน่นแฟ้นขึ้นที่เกิดจากการทำงานร่วมกัน
ส่วนตำแหน่ง 4 รัฐมนตรีว่าการ และ 4 รัฐมนตรีช่วย ได้แจ้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้วว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งตำแหน่งและตัวบุคคล ทุกอย่างขอให้เป็นเหมือนเดิม และได้มีการนำเสนอ ชื่อนายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค ให้พิจารณาได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1
สำหรับสถานการณ์หลังนางสาวแพทองธาร เป็นนายกฯ จะเป็นการทำงานต่อเนื่องที่ดี เนื่องจากนางสาวแพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตลอดระยะเวลาของรัฐบาลชุดที่แล้ว ได้มีโอกาสทำงานและประชุมกับพรรคร่วมในโอกาสต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเรียนรู้อะไรใหม่ และมั่นใจว่าการเมืองจะนิ่ง เข้มแข็ง ต้องเดินหน้าทำงานต่อไป ไม่หยุดชะงัก
ส่วนกรณี การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคร่วมรัฐบาลได้แสดงจุดยืนร่วมกันว่าจะไม่แตะต้อง ม.112 ส่วนของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ
เมื่อถามว่านายทักษิณได้ฝากฝัง นางสาวแพทองธารอย่างไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คนเป็นพ่อแม่ห่วงลูกทุกคน ตนเองกับว่าที่นายกฯ ก็คุ้นเคยกันมานานแล้ว ตั้งแต่นางสาวแพทองธาร ตามนายทักษิณลงพื้นที่ ซึ่งก็เห็นในความมุ่งมั่นตั้งใจ ส่วนแรงเสียดทานต้องมองว่าเกิดจากฝ่ายไหน ถ้าฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลคงไม่มี แต่ถ้าเป็นฝั่งที่ไม่ชอบพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่เรื่องเช่นนี้ให้ดูกันที่ผลงาน ควรรอให้นางสาวแพทองธาร ได้มีผลงานเป็นของตนเองเป็นที่ประจักษ์ก่อน และถ้าไม่มีผลงาน ซึ่งตอนนี้เหลือเวลา 2 ปี 11 เดือน ประชาชนก็ตัดสิน
ส่วนเรื่องอายุของนายกรัฐมนตรีอายุน้อย ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ มากกว่าการฟอร์มทีมจะตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า มองว่าต้องดูองค์ประกอบทั้งหมด คำว่าอายุวัดกันอย่างไร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกอายุประมาณ 32 ปี นายสนธยา คุณปลื้ม เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกอายุ 33 ในขณะที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีตอนอายุ 36 โดยในช่วงท้ายในอนุทินยังกล่าวติดตลกว่า ไม่อยากจะบอกว่าขิงตัวเองเป็นตอนอายุน้อยกว่าอีก












