โฆษกกองทัพอากาศ ขออย่าโยงฝึกผสม “Falcon Strike 2022” กับดราม่าคาบสมุทรไต้หวัน
แจงเป็นการฝึกทางทหารตามปกติ ฝึกต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 5 และเตรียมการล่วงหน้ามากว่า 2 ปี เป็นคนละเรื่องกับดราม่าคาบสมุทรไต้หวัน
วันนี้ (16 ส.ค. 65) พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงเพิ่มเติมถึงประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล ของการฝึกผสม Falcon Strike 2022 ระหว่างกองทัพอากาศไทยกับกองทัพอากาศจีน ท่ามกลางกระแสกดดันบนคาบสมุทรไต้หวัน ว่า เป็นคนละเรื่องกัน โดยการฝึกครั้งนี้ เป็นการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เป็นครั้งที่ 5 ใช้เวลาเตรียมการวางแผนล่วงหน้ากว่า 2 ปี และเป็นการฝึกอย่างเปิดเผย ไม่ได้ปิดบังหรือแอบฝึก ส่วนพื้นที่การฝึก ก็เป็นสิ่งที่ดำเนินการปกติอยู่แล้ว กองทัพอากาศจีนก็ใช้กองกำลังจากพื้นที่ภาคใต้คุนหมิงมาร่วมการฝึก
“ในแง่ของการฝึกทางทหาร เป็นเรื่องปกติทางการทหารทั่วโลก ที่มีการฝึกร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้ร่วมกันในหมู่ทหารอากาศ เพราะทหารทั่วโลกพูดภาษาเดียวกัน เราก็ฝึกกับมิตรประเทศ เช่น จีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย เป็นต้น และเน้นย้ำว่าเป้าหมายของการฝึก คือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ให้เข้าใจนิสัยใจคอกัน กระชับความสัมพันธ์ เหมือนเป็นเพื่อนมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ที่สามารถพูดคุยกันได้ในทุกโอกาส รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกัน เราเรียนรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมเกิดช่องทางด่วนที่สามารถ ที่ใช้พูดคุย ปรึกษาหารือกัน และพบปะแลกเปลี่ยนมุมมองกันในอนาคตได้” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว
โฆษกกองทัพอากาศ ยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ว่า เป็นอีกมิติหนึ่งในระดับประเทศ ที่ดำเนินการกันไป แต่ในระดับกองทัพ เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ พร้อมย้ำว่าการฝึกทางการทหารทั่วโลก ฝึกเหมือนกันหมด โดยเฉพาะการฝึกครั้งนี้ ที่ไม่ได้มีการจำลองสถานการณ์ความขัดแย้งใดๆ เป็นเพียงการฝึกเพื่อสร้างความคุ้นเคยในการปฏิบัติการทางอากาศร่วมกันเท่านั้น
ส่วนที่มีข้อกังวลว่า ฝึกกับจีนแล้วสหรัฐจะไม่ยอมขาย F-35 ให้นั้น โฆษกกองทัพอากาศ ยืนยันว่า ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นคนละเรื่องกัน อย่างเช่นการฝึกครั้งนี้ การใช้ยุทโธปกรณ์ใดที่ซื้อจากสหรัฐอเมริกา ก็จะมีพันธสัญญาชัดเจนว่า นำไปใช้ในการฝึกกับประเทศอื่นได้หรือไม่ ก็ต้องดำเนินการตามนั้น
