‘จุรินทร์’ หนุน องค์การเภสัช เร่งนำเข้า Antigen Test Kit มาขายในราคาถูก ส่วน สปสช.แจกฟรีให้ประชาชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน ด้านการพาณิชย์ ถึงการควบคุมราคา Antigen Test Kit ว่าขณะนี้กำลังรอต้นเรื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ถ้ากระทรวงสาธารณสุข มีความจำเป็นต้องควบคุมราคากระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการให้ทันที โดยข้อเท็จจริงขณะนี้สำหรับ Antigen Test Kit เพิ่งมีประกาศของกระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้นำไปใช้กับตนเองได้ หรือที่เรียกว่า Home use ยังไม่ได้มีการดำเนินการในทางปฏิบัติจริง เพราะ อย.ยังรอรับขึ้นทะเบียนจากผู้ที่ประสงค์จะนำเข้า และจะต้องอนุญาตก่อนจึงสามารถไปจำหน่ายในร้านขายยาที่มีเภสัชกรได้ เท่าที่ติดตามล่าสุด ยังไม่ได้มีการดำเนินการถึงขั้นที่ อย.อนุญาตแล้วไปจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม Antigen Test Kit มีหลายคุณภาพ หลายมาตรฐานและต้นทุนนำเข้าคาดว่าจะมีความแตกต่างกัน กระทรวงสาธารณสุขจึงควรเป็นต้นเรื่องในการวินิจฉัยเบื้องต้นว่าคุณภาพ มาตรฐาน ราคาเบื้องต้นควรเป็นอย่างไร กระทรวงพาณิชย์พร้อมทำงานร่วมกัน ในการให้ความร่วมมือหากจำเป็นต้องควบคุมราคา ก็ยินดีดำเนินการให้
สำหรับข้อเสนอนโยบายความเห็นของตน ตนคิดว่าระหว่างนี้เราควรเร่งรัดให้มีการนำเข้าให้มากที่สุด เพราะเป็นความจำเป็นในการให้ประชาชนสามารถตรวจโควิดได้ด้วยตนเอง เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องโควิด หน่วยงานของรัฐอย่างน้อย 2 หน่วยที่ควรเร่งรัดนำเข้า
1.องค์การเภสัช หากต้องจำหน่ายควรนำเข้ามาในจำหน่ายในราคาที่ถูกที่สุด เพื่อกำหนดเป็นราคาชี้นำตลาด
2.สปสช.ซึ่งมีงบประมาณอยู่แล้ว หากจะเร่งนำเข้ามาเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนฟรีจะเป็นประโยชน์ในการช่วยให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศหรือผู้ที่มีความจำเป็นสามารถเข้าถึงและนำไปใช้ตรวจได้ด้วยตนเองเท่ากับเป็นการช่วยคัดกรอง “แยกปลาออกจากน้ำ” ไม่ให้คนที่มีความเสี่ยงหรือตรวจเบื้องต้นแล้วพบว่าอาจจะติดเชื้อด้วย Antigen Test Kit ไปปนกับคนที่ไม่ป่วยจะช่วยแก้ปัญหาได้มาก
ดังนั้นจึงขอให้ 2 หน่วยงานนี้เร่งนำเข้ามาส่วนการอนุญาต ภาคเอกชนเป็นเรื่องที่ อย.ต้องดำเนินการตามความเหมาะสมหรือตามทฤษฎีของ อย.ว่าคุณภาพมาตรฐานได้หรือไม่ จะอนุญาตหรือไม่อนุญาตอย่างไร การคุมราคาจะเป็นเรื่องที่ตามมาซึ่งไม่ยาก โดยจะต้องไม่เป็นการสกัดการนำเข้า เพราะเราอยากเห็นการนำเข้า โดย Antigen Test kit เกือบทั้งหมดต้องนำเข้า ที่มีข่าวว่าผลิตในประเทศไทยเท่าที่ดูตัวเลขยังน้อยมากมีเพียงแห่งเดียวเท่าที่ตนติดตามจากข่าว
