POLITICS

‘พิชัย’ สั่งล้างบางสินค้าผิดกฎหมาย ปราบธุรกิจนอมินี ปรับปรุงกฎหมาย

‘พิชัย’ สั่งล้างบางสินค้าผิดกฎหมายกว่า 57,739 คดี-ปราบธุรกิจนอมินี ลุยตรวจนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง 46,918 ราย ปรับปรุงกฎหมาย เพิ่มความผิดฐาน ‘นอมินี’ ใน พ.ร.บ.ฟอกเงิน เปิดทางยึด-ริบทรัพย์ บริษัทที่กระทำผิด

วันนี้ (16 มิ.ย. 68) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ประชุมเร่งรัดการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาสินค้าไร้คุณภาพและธุรกิจต่างชาติที่ฝ่าฝืนกฎหมายไทย ปกป้องผู้ประกอบการและผู้บริโภคไทย

นายพิชัย เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้มุ่งติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พร้อมรับฟังปัญหาและอุปสรรคจากหน่วยงานต่างๆ โดยเน้น 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การบังคับใช้กฎหมายกับแพลตฟอร์ม e-Commerce การเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้านำเข้า โดยเฉพาะในเขต Free Zone การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพื่อตรวจสอบการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า และการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการขนถ่ายสินค้า

ข้อมูลเดือนกันยายน 2567 ถึงพฤษภาคม 2568 แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานภายใต้คณะกรรมการฯ ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าผิดกฎหมาย 57,739 คดี รวมมูลค่ากว่า 2,287 ล้านบาท จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้ 1,875 ล้านบาท และดำเนินการ Notice and Takedown ลบสินค้าผิดกฎหมายออกจากแพลตฟอร์มออนไลน์กว่า 14,976 รายการ ปราบปรามธุรกิจนอมินี 861 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 15,296 ล้านบาท

นายพิชัย ระบุว่า เพื่อป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าและการบิดเบือนข้อมูลการนำเข้า ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม พัฒนาระบบตรวจสอบและเชื่อมโยงข้อมูลสินค้านำเข้า โดยสำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างเสนอร่างแก้ไขกฎหมายฟอกเงิน เพื่อให้การประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมายเป็นความผิดมูลฐาน และสำนักงาน ป.ย.ป. หารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางปรับปรุงกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน และกรมศุลกากรอยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ Transshipment เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ

กระทรวงพาณิชย์ยังร่วมกับกระทรวงมหาดไทยลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการถือครองที่ดินของคนต่างด้าว และจัดตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด โดยกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือแจ้งสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่ฝ่าฝืนกฎหมายภายในวันที่ 18 มิถุนายน 2568 เพื่อตรวจสอบสืบสวน สอบสวน จับกุมและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

ที่ประชุมฯ มีมติให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกำกับติดตามการตรวจนอมินีในทุกจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าตรวจสอบเชิงรุก ปูพรมทั่วประเทศ ซึ่งมีนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีลักษณะนอมินี 46,918 ราย เน้นหนักที่ จ.ชลบุรี กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การตรวจสอบธุรกิจนอมินี ได้ตรวจสอบบริษัทที่มีชาวต่างชาติเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 0.0001–49.99% ทั่วประเทศ รวม 46,918 ราย มีการตั้งคณะทำงานระดับจังหวัดพร้อมกำหนดไทม์ไลน์อย่างชัดเจน คาดว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จทั้งหมดภายใน 1 ปี โดยช่วง 6 เดือนแรกสามารถดำเนินการครอบคลุม 69 จังหวัด ส่วนอีก 7 จังหวัดที่มีจำนวนบริษัทมาก จะมีทีมจากส่วนกลางลงไปสนับสนุน

การป้องกัน รัฐบาลมีแผนปรับปรุงกฎหมายโดยเสนอให้เพิ่มความผิดฐาน “นอมินี” เข้าไปเป็นหนึ่งในความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เปิดทางให้ยึดหรือริบทรัพย์สินของบริษัทที่กระทำผิด ขณะนี้ร่างกฎหมายได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และจะเร่งผลักดันให้ ครม. มีมติส่งต่อร่างกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สามารถพิจารณาได้ทั้ง 3 วาระรวด โดยใช้กลไกของกรรมาธิการและการประสานงานกับหน่วยงาน ผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ออกโดยเร็ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat