เลขาฯ ป.ป.ช.เผย หาหลักฐานว่า พิธา เป็นผู้จัดการมรดกยาก
เลขาฯ ป.ป.ช.เผย หาหลักฐานว่า พิธา เป็นผู้จัดการมรดกยาก เนื่องจากเรื่องนานกว่า 15 ปีแล้ว ตรวจสอบลำบาก ระบุมี ส.ส.หมดวาระยื่นบัญชีทรัพย์สินเข้ามาแล้ว 80% ส่วนหนึ่งขอขยายเวลา
วันนี้ (16 มิ.ย. 66) ที่โรงแรมเซ็นทารา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยระบุว่าต้องตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินทั้งระบบ และทุกรายการ แต่ที่ปรากฎเป็นข่าวมีแค่เรื่องหุ้นไอทีวี และหนี้ค้ำประกัน ซึ่งต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเบื้องต้น นายพิธา ได้ยื่นบัญชีเข้ามาตอนรับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562 และมีการยื่นเอกสารการถือหุ้นไอทีวีเข้ามาเพิ่มเติม พร้อมทั้งแนบคำสั่งศาลเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2550 ให้เป็นผู้จัดการมรดก โดยต้องดูว่าโอนเมื่อไหร่ วันที่พ้นจากตำแหน่งยังมีอยู่หรือไม่ก็ต้องยื่น ถ้าเทียบกับทรัพย์สินที่ยื่นมาอาจจะเล็กน้อย หากสงสัยอาจจะสอบถามได้
ขณะที่การตรวจสอบคำสั่งศาลนั้น เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า ทาง ป.ป.ช. ต้องไปเช็คจากสำเนา หรือต้นขั้วคำสั่งว่ามาจากศาลจริงหรือไม่ แต่ปรากฏว่าคำสั่งศาลนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งก็นับเป็นเวลา 15 ปีแล้ว ซึ่งเป็นปกติของเอกสารราชการ ที่ เป็น 10 ปีก็จะทำลายแล้ว ดังนั้นจึงเป็นความยากลำบากในการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามเพิ่งได้รับแจ้งมาว่า การแต่งตั้งให้ พิธา เป็นผู้จัดการมรดกไม่มีผู้ใดคัดค้าน เพียงแต่อยู่ที่ว่า ทรัพย์สินในกองมรดกมีเท่าไหร่ จึงต้องไปดูว่าในพินัยกรรมนั้นมอบให้ใครบ้าง นายพิธา อาจเป็นผู้จัดการมรดกที่ต้องไปทำการแบ่งให้ทายาท ซึ่งตรงจุดนี้ไม่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.
นิวัติไชย ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การตรวจสอบพินัยกรรมนั้นต้องไปตรวจสอบ เช่น ที่ดินมอบให้นาย ก ก็ต้องไปจดทะเบียนโอนเพื่อเป็นกรรมสิทธิ์ หรืออีกกรณีไม่มีพินัยกรรม หรือมีแต่ไม่ได้ระบุชัดเจน ผู้จัดการมรดกต้องไปคุยกันว่า มรดกทั้งหมดยกให้ใครบ้าง
ส่วนในทางกฎหมาย การจะบอกว่า หุ้นไอทีวียังไม่เป็นของนายพิธา หรือไม่อย่างไร ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด แต่หน้าที่ของ ป.ป.ช. มองอย่างเดียวคือ ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง มีทรัพย์สินดังกล่าวแล้วหรือไม่ และยื่นเข้าแล้วหรือยัง ส่วนการจะเป็นผู้จัดการมรดก แล้วส่งผลให้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามเป็นเรื่องอีกองค์อำนาจที่วินิจฉัย ซึ่งในขณะนี้ได้รับแจ้งจากทางสารบัญมาว่า มีจำนวน ส.ส. ที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินเข้ามาแล้วหลังพ้นตำแหน่งกว่า 80% ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 18 มิ.ย. แต่ตอนนี้ก็ยังมีการยื่นขอขยายเวลาเข้ามาเพิ่มเติม
