พรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นแก้ รธน.แล้ว 5 ฉบับ เป็นเอกภาพร่างเดียวแก้ 272 ตัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกฯ เตรียมบรรจุระเบียบวาระ 23 มิ.ย.
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 5ฉบับ ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่าได้กำหนดปฏิทินการประชุมไว้เรียบร้อยแล้วโดยได้หารือกับประธานวุฒิสภาแล้วเห็นว่าจะประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22 มิ.ย. โดยจะประชุมร่างกฎหมายของรัฐสภาที่ค้างอยู่คือร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติด และร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ และวันที่ 23 มิ.ย.จะพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ คาดว่าไม่เกิน 2 วันหากจบในวันแรกได้ก็จะจบภายในวันที่ 23 มิ.ย. โดยจะดูว่าหากเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในลักษณะเดียวกันก็จะพิจารณาไปพร้อมกัน อย่างไรก็ตามวันประชุมจะมีปัญหาบ้าง เนื่องจาก เป็นการประชุมร่วม มีสมาชิกวุฒิสภามาร่วมประชุมด้วย จึงต้องเน้นย้ำมาตรการในการป้องกันมาตรการด้านสาธารณสุขโดยทุกคนต้องสวมหน้ากากร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การเว้นระยะห่างอาจจะทำไม่ได้ เรามีสมาชิกมาเพิ่มอีก 250 คนแต่เชื่อว่าการใส่หน้ากากครบทุกคนสามารถป้องกันได้ส่วนผู้อภิปรายก็จะมีแท่นอภิปรายเตรียมแยกไว้ให้
นายชวน กล่าวเพิ่มเติมว่า รายละเอียดต่างๆ ในการปฏิบัติ ตอนวันประชุม กรอบเวลา และระยะเวลาในการลงมติ จะมีการหารือกัน 3 ฝ่ายคือตัวแทนวุฒิสภา ฝ่ายค้านและรัฐบาลอีกครั้ง
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ยื่นมี 5 ร่างแรกแก้ไขมาตรา 256 เพื่อไปสู่กระบวนการตั้ง สสร. มีพรรคการเมืองส่วนหนึ่งรวมลงชื่อ ซึ่งเชื่อว่ายื่นได้ตามกระบวนการของรัฐสภา คิดว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรค
ขณะที่ร่างแก้ไขให้ตัดอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีมาตรา 272 ทุกพรรคฝ่ายร่วมลงชื่อโดยพร้อมเพียงกัน ส่วนอีก 3 ร่างเป็นเรื่องสิทธิของประชาชน หลักประกันสุขภาพ เรื่องการประกันตัวที่ในรัฐธรรมนูญยังเขียนไม่ชัดเจน เรื่องระบบเลือกตั้งบัตรใบเดียวหรือบัตร 2 ใบ ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีและยกเลิกอำนาจคสช.ต่างๆ
ขณะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่าที่ร่วมลงชื่อแก้มาตรา272 เพราะเป็นสิ่งที่ผลักดันมาตลอดและเห็นว่าเป็นต้นตอของความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญ ส่วนเรื่องระบบเลือกตั้งที่เห็นไม่ตรงกันไม่ใช่เรื่องแปลกพรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับบัตร 2 ใบ แต่มีหลายรูปแบบก็ต้องมาถกเถียงกันว่าอะไรเหมาะกับสถานการณ์ ยืนยันฝ่ายค้านมีเอกภาพ ซึ่งได้มีการพูดคุยกันในพรรคฝ่ายค้านตลอด แต่อาจจะมีความเห็นต่างกันได้
ส่วนที่ไม่ร่วมลงชื่อในร่างแก้ไขมาตรา 256 เพื่อยกร่างให้มี สสร.นั้น นายพิธา กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเเน้นไปที่ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ และการตัดอำนาจสวดังนั้นวันนี้ขออย่าหลงประเด็นเพราะไม่ว่าจะแก้อะไรก็ตามหากยังมี ส.ว.อยู่การแก้ไขประเด็นอื่นคงไม่สำเร็จ ทั้งนี้ต้องขอบคุณนายชวนที่ตอบรับพิจารณาร่างพรบ.ประชามติก่อน ซึ่งก็จะตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเชื่อว่าในสมัยประชุมนี้น่าจะได้เห็นความก้าวหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากขึ้น