ผบช.สตม.ลงสุวรรณภูมิ ตรวจประเดิมช่องออโต ขาออก สำหรับชาวต่างชาติ รับปีใหม่ ตามนโยบายนายกฯ 

ผบช.สตม.ตรวจประเดิมช่องออโต ขาออก สำหรับชาวต่างชาติ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามนโยบายนายกฯ รับปีใหม่ 

ตามนโยบาย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เร่งปรับปรุงระบบตรวจคนเข้าเมืองสำหรับผู้โดยสารขาออก ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้ตรวจชาวต่างชาติเพื่อเร่งระบายความหนาแน่นเพื่อให้ผู้ที่ต้องรีบเดินทางสามารถขึ้นเครื่องบินได้ทันเวลา โดยกำหนดวันดีเดย์ในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไปนั้น

วันนี้ (15 ธ.ค. 66) พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 ได้ลงพื้นที่ ตรวจการปฏิบัติ และการใช้งานเครื่องตรวจหนังสือเดินทาง Auto channel ขาออก ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่า มีชาวต่างชาติใช้งานแล้ว ตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของวันที่ 15 ธันวาคม 2566 จนถึงเวลา 14.00 น. จำนวนประมาณ 4,300 คน โดยสูงสุดเป็นคนสัญชาติจีนราว 1,512 คน รองลงมาเป็น สิงคโปร์ 182 คน เกาหลีใต้ 96 คน ญี่ปุ่น 40 คน ตามลำดับ

พล.ต.ท.อิทธิพล เปิดเผยว่า ทาง สตม.ได้มีคำสั่ง สตม.ที่ 322/66 ลง 14 ธ.ค.66 ให้ใช้เครื่อง  Auto channel ตรวจชาวต่างชาติ ขาออก ที่ ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ โดยไม่ต้องใช้ตราประทับ และสแกนลายนิ้วมือ เพื่อให้สามารถเร่งระบายความหนาแน่นของผู้โดยสารได้คล่องตัวขึ้น ซึ่งเดิม เครื่อง Auto channel เริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 หรือ 10 ปีที่แล้ว และรองรับการตรวจเฉพาะคนไทย ซึ่งมีการติดตั้งที่บริเวณขาออก สนามบินสุวรรณภูมิ 16 ช่องตรวจ และ ขาเข้า สุวรรณภูมิ 16 ช่องตรวจ

ปัจจุบัน ทาง สตม.ได้ขอให้ทางบริษัทผู้ดูแลระบบ พัฒนาโปรแกรม ให้สามารถรองรับชาวต่างชาติที่เดินทางออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามดำริ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วน ให้ทันรับเทศกาลคริสมาสต์ และปีใหม่ ที่จะมาถึงนี้ 

อย่างไรก็ตาม การใช้ Auto channel ในทุกประเทศ ยังมีข้อจำกัด ในการใช้ โดยสามารถได้เฉพาะบุคคลสัญชาติที่มีหนังสือเดินทางแบบอิเล็คทรอนิกส์ หรือ E-passport ซึ่งมีประเทศที่อยู่ในข้อตกลงความร่วมมือ ประมาณ70 ประเทศ  ดังนั้น บุคคลสัญชาติที่ใช้หนังสือเดินทางสัญชาติที่ไม่เป็น  E-passport ยังจำเป็นต้องใช้ช่องตรวจโดยเจ้าหน้าที่ตามปกติอยู่ 

ส่วนการตรวจการเดินทางเข้าประเทศนั้น ยังจำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการคัดกรอง ตามหลักด้านความมั่นคง โดยมีเพียงคนไทย และบุคคลสัญชาติฮ่องกง สิงคโปร์ ที่สามารถใช้ Auto channel เข้าประเทศได้เช่นเดิม

ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจเยี่ยม มีนายสถานี หรือ Station Manager สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ได้มาแสดงความขอบคุณ ผบช.สตม.และ ผบก.ตม.2 ที่ได้พัฒนาระบบดังกล่าว ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดย พล.ต.ท.อิทธิพลฯ กล่าวว่า การพัฒนาระบบในครั้งนี้ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่ สตม.มอบให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ตามนโยบายท่านนายกรัฐมนตรี

พล.ต.ท.อิทธิพล ยัฝเปิดเผยอีกว่าในระยะยาว ทาง สตม.ได้รับการสนับสนุนจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ AOT ให้จัดซื้อระบบ Automatic Channel มาทดแทนระบบเดิมที่มีอายุการใช้งานกว่า 10 ปี ที่ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง โดยจะเริ่มใช้งานได้ราว เดือนกรกฎาคม 2567